เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 ศ.​ดร.สุชาติ​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ ผู้เชี่ยวชาญ​เศรษฐกิจ​มหภาค​ และ​อดีต​รมว.คลัง​ กล่าวถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ​ไทยที่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยสูง​และค่าเงินบาท ว่า 1.การที่มีผู้กล่าวว่า​ หากประเทศไทยลดดอกเบี้ยจะทำให้เงินทุนต่างประเทศ​ไหลออก​นั้น เรามี​เงินทุนสำรอง​ระหว่างประเทศ​มากเกินไป​ จะไปกลัวเงินทุนระยะสั้น​ไหลออกทำไม เงินระยะสั้นเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น โดยแทบไม่มีประโยชน์​อย่าง​อื่นๆ​ เลย

2.การลดดอกเบี้ย เพิ่มอัตราเงินเฟ้อ​ในกรอบ​ 2-4% แล้วปล่อยให้เงินระยะสั้นไหลออกไปบ้าง​ จะทำให้เงินบาทอ่อนลง​ ไปเพิ่มการส่งออกการท่องเที่ยว และเพิ่มการลงทุนจากตปท.​ (FDI) จะทำให้​เศรษฐกิจ​เจริญเติบโตในอัตราสูงขึ้น​ ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น​ รัฐบาลได้ภาษีมากขึ้น ทั้งรัฐบาลและประชาชนมีสัดส่วนหนี้ต่อ GDP​ ลดลง จึงดูดีกว่ามาก​

3.เราบริหารประเทศ​ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจ​เจริญเติบโตได้มากๆ​ ให้ประชาชนมีงานดีๆ​ ทำ​ มีฐานะดี​ มีความเป็นอยู่ดี​ เมื่อระบบเศรษฐกิจ​เจริญเติบโตสูงขึ้น​ เงินทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวก็จะไหลเข้ามามากขึ้น​เอง​ (เช่นญี่ปุ่น​ในเวลานี้)​ เพราะต่างชาติ​ดูแล้วเห็นว่าประเทศเรา​ เริ่มมีอนาคตดีขึ้น

4.การที่ประเทศเวียดนาม ในปี​ 66 มีความเจริญเติบโตเกิน​ 5% สูงกว่าประเทศไทยมาก​ ซึ่งเติบโตเพียง​ 1.8% ส่วนใหญ่ๆ​ มาจากการที่​ เราแข่งขันสู้เวียดนาม​ไม่ได้​ โดยใน​ 10 กว่าปีที่ผ่านมา​ ค่าเงินบาทเทียบเงินด่อง​ แข็งขึ้นกว่า​ 44% ความจริงค่าเงินบาทแข็งขึ้นกว่าประเทศคู่ค้าและคู่แข่งเกือบทุกสกุล​ 15​-45%

5.เช่นเดียวกันการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ​ (FDI)​ ที่เข้าจีนน้อยลง​ ไม่ได้มาประเทศไทย​ แต่ไปเวียดนาม​ อินโดนีเซีย​ และมาเลเซีย​ เพราะเงินเขาอ่อนกว่าไทยมาก​ ราคาพลังงานและค่าแรงงานแม้จะสูงขึ้นในสายตาคนในชาติ​เขา แต่ราคาจะถูกในสายตาต่างชาติ​