เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์  ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)  ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการออก ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่จ.นครราชสีมา ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้สั่งการแล้ว และมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เข้ามาดู ในรายละเอียด โดยเป็นการบูรณาการ ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมแผนที่ทหาร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  จังหวัด กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าที่ดินเหล่านี้เป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็มีการพูดคุยกันแล้วว่า อะไรที่จะต้องทำออกมาเป็นวันแม็พหรือแผนที่เดียวให้ชัดเจน และจะเชื่อตามนั้น ทุกอย่างจะได้ยุติ ซึ่งคิดว่าขอให้รออีกระยะหนึ่ง โดย คณะอนุกรรมการมีกรอบการทำงาน 2 เดือน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ความชัดเจน ทั้งนี้ ย้ำว่าทุกอย่างต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แนวป่าเป็นอย่างไร อยู่มาเท่าไหร่ก่อนหรือหลังประกาศ โดยยืนอยู่บนหลักการที่ให้สามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ให้ได้และพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของประชาชนให้ได้ โดยทำ 2 อย่างควบคู่กันไป อิงกฎหมาย โดยหาช่องทางเพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิ์ในการทำมาหากิน

“ความจริงก็เป็นปัญหากันมาตลอด เรื่อง การวางแนวเขตต่างๆ ต่างฝ่ายต่างถือแผนที่คนละฉบับ ดังนั้นจึงนำมาซึ่งการตั้งคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ เพื่อบูรณาการด้านต่างๆ ซึ่งขณะนี้ครบ 3 ปีแล้ว เราก็แบ่งเป็นพื้นที่ต่างๆ 3 – 5 ประเภท ซึ่งเราก็ดำเนินการอยู่ ก็ต้องมาดูกัน ใช้วันแม็พในการดู แต่ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ เพราะกำลังคนมีไม่มาก แต่ขณะนี้เริ่มต้นได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว อันไหนที่ทำให้ได้ก่อน ก็ทำไป ก็อยากจะเรียนย้ำตรงนี้ว่า ขณะนี้ต้องจำแนกประเภทที่ดินต่างๆ ว่าแต่ละอย่างจะดูแลกันอย่างไร สำหรับประชาชนที่เข้ามาทำกินอยู่ก่อนแล้ว หากตรวจสอบได้ ก็จะดำเนินการพยายามคืนสิทธิ์ให้  หลายๆ“ นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตนคิดว่ากรณีต่างๆ ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร รัฐพยายามคืนสิทธิ์ให้ หรือมอบสิทธิ์ในการทำมาหากิน บางเรื่องถ้าให้ไม่ได้ ก็ต้องดูแต่ละประเภทว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป ดังนั้นการจะให้ที่ดินประชาชนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เราก็ต้องอิงกฎหมาย โดยมาดูว่าอะไรที่สามารถให้โอกาสเขาได้ ปัญหาเรื่องที่ดินจะได้ลดน้อยลง.