เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ บริเวณหน้าห้องประชุมลาเวนเดอร์ 2 ชั้น 3 โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมนนาทางวิชาการ เรื่อง “แนวทางในการพิจารณาวินิจฉัยคดีตรวจสอบทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด” พร้อมด้วย พล.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. โดยเป็นการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน และคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินภาค ซึ่งกำกับดูแลการดำเนินการของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่ได้รับมอบหมาย ให้เป็นไปในมาตรฐานและทิศทางเดียวกัน

โดย พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุมสัมมนาในวันนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมมีทั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินภาค 1-9 และ กทม. รวมถึงคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเพื่อพิจารณาคดีรายสำคัญและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 100 ราย ซึ่งการสนับสนุนการปราบปรามยาเสพติดนั้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ ได้มีแนวทางให้ใช้มาตรการปราบปรามทางกฏหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะผู้ผลิตและผู้ค้า ต้องขยายผลและยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ซึ่งผู้ที่เข้าสัมมนาในวันนี้ต่างเป็นกลไกที่สำคัญในการกำกับการทำงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน โดยผลจากการประชุมหารือ ทั้งจะถูกนำไปเป็นแนวทางและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการไปกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า เรื่องจำนวนเงินของนักค้ายาเสพติด ที่อาจมีการถ่ายโอนไปยังต่างประเทศแล้วนั้น ตรงนี้คดียาเสพติดถือเป็นคดีสากล ซึ่งเราจะต้องจับมือกับต่างประเทศเพื่อให้ความร่วมมือกันทั้งหมด ป้องกันคนภายในประเทศของตัวเองตกเป็นผู้เสียหาย ส่วนเรื่องความคืบหน้ามาตรการ Quick Win ซึ่งจะต้องนำตัวผู้เสพออกจากสังคมเพื่อเข้ารับการบำบัด โดยส่วนใหญ่นักเสพยาเสพติดมักเลือกที่จะถูกดำเนินคดีมากกว่าเข้ารับการบำบัด

อย่างไรตอนนี้เราก็คงต้องประสานงานในกระบวนการยุติธรรม เพราะเดิมทีแรกเราหวังว่าผู้ที่เสพอาจจะสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ปริมาณจำนวนผู้เสพที่ยินยอมเข้ารับการบำบัดมันกลับน้อยลง ขณะที่ปริมาณการถูกจับกุมกลับเยอะขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ศาลได้ระบุไว้ว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ศาลก็จะรอลงอาญาไว้ แต่ก็เป็นช่องว่างในกฎหมาย เพราะเมื่อศาลสั่งให้พวกเขารอลงอาญาตามอัตราโทษ ก็จะสั่งให้ได้รับการคุมประพฤติไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 เช่น ให้ผู้เสพเข้ารายงานตัว แต่ศาลจะไม่ได้สั่งให้ผู้เสพไปบำบัดหรือรักษา และเราก็ยอมรับว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นี้เพิ่งบังคับใช้ได้ 2 ปี อย่างไรก็คงต้องไปเพิ่มการบังคับใช้กฎหมาย แต่ถ้าจำเป็นสูงสุดคงต้องไปแก้เนื้อหากฎหมาย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ที่ผ่านเข้ารับการบำบัดรักษาเรื่องยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้วกลับสู่สังคม ก็ยังมีบ้างที่กลับไปเสพซ้ำ คิดเป็น 15-20% หรือมากกว่านั้น ซึ่งเราก็ได้ให้การบ้านแก่กรมคุมประพฤติไป ถ้าผู้ใดเข้ารับการบำบัดรักษาแล้ว ก็ไม่ควรมีสถิติการเสพซ้ำ จำนวน 3-6% แต่ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่เรายังต้องไปดูในส่วนของนานาชาติ เพราะต่างประเทศอาจมีสถิติการเสพซ้ำถึง 50% เพราะกลุ่มคนคนที่ใช้ยาเสพติดส่วนใหญ่ก็เป็นเยาวชนหรือวัยรุ่น ก็อาจกลับมาเสพซ้ำอีกได้ ทั้งนี้ ก็ถือเป็นพลวัตรที่เราต้องไปแก้ปัญหา และเป้าหมายของรัฐบาลก็ชัดเจนว่าใน 1 ปี ปัญหายาเสพติดต้องลดลง

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเสริมว่า ส่วนสถานการณ์ยาเสพติดของภาคกลางและภาคใต้ ตนต้องเรียนว่าในพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะมีมิติของศาสนา วัฒนธรรม และผู้คน เพราะพื้นที่ชายแดนใต้ถือเป็นแหล่งแพร่ระบาด และอาจจะเป็นเส้นทางลำเลียงยาไอซ์ผ่านไปยังประเทศมาเลเซีย การแก้ปัญหายาเสพติดในภาคใต้จึงจำเป็นต้องใช้การป้องกันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และถ้าเด็กรายใดติดยาเสพติดก็ต้องได้รับการบำบัดรักษา ซึ่งจะมีรูปแบบที่สถาบันหรือศูนย์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องค่อนข้างตื่นตัว และขยายไปยังการแก้ปัญหาในรูปแบบชุมชนมากขึ้น ในลักษณะ “ประชาชนคิด ประชาชนทำ รัฐบาลหนุน”

อีกทั้งศาสนาอิสลามมองว่ายาเสพติดเป็นของต้องห้าม จึงเป็นหน้าที่ของผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนต้องร่วมกันป้องกันยาเสพติด เราจึงลงไปเพื่อประกาศว่ารัฐบาลเอาจริง และที่สำคัญทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ค่อนข้างต่อต้านเรื่องกระท่อมและกัญชา และเมื่อสิ่งเหล่านี้ยังไม่ผิดกฎหมาย จึงต้องหามาตรการกฎหมายไปจับกุมกลุ่มคนที่ต้มน้ำกระท่อมขาย อาจใช้ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ส่วนยอดตัวเลขทรัพย์สินที่ตกเป็นของ กองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด กว่า 510 ล้านบาท เป็นตัวเลขเพียงรายปี ตนมั่นใจว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ อาจจะเป็นพันล้านบาทได้ แต่ตนยังไม่อยากให้ไปมองยังในเรื่องสถิติตรงนี้ เพราะบางคดียังไปไม่ถึงขั้นตอนของศาล เนื่องจากร้อยละ 10-20 ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจยึด จึงอยากให้ใช้ประสบการณ์ในหลายๆ คดีที่ผ่านมา ต้องพัฒนาหาจุดอ่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ส่วนเรื่องอยากให้เพิ่มหน่วยข่าวกรองเข้ามาช่วยเรื่องตรวจสอบทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติด ตนก็ไม่ได้เจาะจงถึงการเพิ่มกำลังคน แต่เราควรจะมีหน่วยข่าวกรองเกี่ยวกับรายการทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติด แต่ตนก็มอบหมายให้เป็นโจทย์ในที่ประชุม เพราะที่ผ่านมา จะสังเกตได้ว่านักค้ายาเสพติดมักจะใช้เงินไปลงทุนในธุรกิจ หรือซื้อของแพงมาขายในราคาถูก ก็มองว่าเป็นแผนประทุษกรรมอย่างหนึ่งของขบวนการ ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนสูง แบบนี้มองว่าอาจเข้าข่ายลักษณะการฟอกเงินได้.