เมื่อวันที่ 6 มี.ค. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการสร้างและดูแลระบบสาธารณูปโภคให้เกิดสุขภาวะอนามัยที่ดี เพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค และได้มอบให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการป้องกันการขาดแคลนน้ำที่มีคุณภาพ ที่อาจเกิดผลกระทบกับประชาชนในทุกพื้นที่ เพราะแหล่งน้ำดิบถือเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลติดตามการใช้ประโยชน์และดูแลรักษาระบบประปาบาดาลและจุดบริการน้ำบาดาลทุกพื้นที่ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้จัดทำโครงการติดตามคุณภาพและการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำบาดาล เพื่อศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำบาดาลและคุณภาพน้ำบาดาลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลในการเฝ้าระวังผลกระทบต่อชั้นน้ำบาดาลด้วย

น.ส.เกณิกา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในช่วงฤดูแล้งหรือฝนทิ้งช่วง กรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีภารกิจจัดหาแหล่งน้ำบาดาลให้กลุ่มเกษตรกรมีน้ำใช้ทำการเกษตรอย่างเพียงพอ และพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลตามหลักวิชาการให้เหมาะสมกับศักยภาพน้ำบาดาลในพื้นที่ เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน สำหรับเกษตรกรที่สนใจ สามารถเข้าร่วมโครงการน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ ด้วยการรวมกลุ่มกัน 8-15 ราย มีพื้นที่การเกษตรไม่น้อยกว่า 60-500 ไร่ และไปยื่นเรื่องผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งส่งเรื่องไปที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1-12 ที่รับผิดชอบพื้นที่แต่ละจังหวัด จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบคุณสมบัติและไปสำรวจพื้นที่ว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะเจาะบ่อน้ำบาดาล ก่อนจะจัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณต่อไป ซึ่งโครงการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ