เมื่อวันนี้ 6 มี.ค. เวลา 10.45 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วยนางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานมอบรางวัลสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 ของกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย รางวัลทองคำ รวมจำนวน 48 รางวัล โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับกรม และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดี

โอกาสนี้ นายอรรษิษฐ์ มอบรางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง หนัก 20 บาท มูลค่ารวม 704,600 บาท ให้แก่ นางสาวสุธาสินี ดาไกร ซึ่งเป็นผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย หมายเลข 170472 มอบรางวัล ที่ 2 สร้อยคอทองคํา หนัก 5 บาท จํานวน 10 รางวัล มูลค่ารางวัล รวม 1,778,000 บาท และรางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคํา หนัก 1 บาท จํานวน 37 รางวัล มูลค่ารางวัลรวม 1,317,200 บาท พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล

“ในนามของกระทรวงมหาดไทย ขอเเสดงความยินดีกับผู้รับรางวัลทั้ง 48 ท่าน นอกจากทุกท่านจะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลในวันนี้แล้ว ท่านยังเป็นผู้มีจิตเป็นกุศลที่ได้ช่วยสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของสภากาชาดไทย กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย” นายอรรษิษฐ์ กล่าว

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สภากาชาดไทยเป็นองค์กรการกุศลเพื่อมนุษยธรรมตามหลักกาชาดสากล โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สภาอุณาโลมแดง” ขึ้น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2436 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาสภากาชาดไทย และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (ขณะดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) ทรงเป็น “สภาชนนี” และต่อมาสภากาชาดสยามเปลี่ยนชื่อเป็น สภากาชาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2482 และในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงดำรงตำแหน่ง องค์สภานายิกา และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตำแหน่ง องค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย นอกจากนี้ เพื่อให้กิจการสภากาชาดไทยสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ องค์สภานายิกาจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้คู่สมรสของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำรงตำแหน่ง นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ทำหน้าที่สังคมสงเคราะห์ประชาชนที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน และผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร และกิจการของสภากาชาดไทยในพื้นที่จังหวัด

“กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้จัดทำสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 จำนวน 100,000 ฉบับ ฉบับละ 100 บาท มูลค่าสลากฯ รวมทั้งสิ้น 10,000,000 บาท โดยขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยจำหน่ายสลากฯ ซึ่งได้ทำการออกรางวัลสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 ของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ณ เวทีกลาง หน้าหอสมุดประชาชน สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร มีผู้ถูกรางวัลมาติดต่อขอรับรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 48 รางวัล จากทั้งหมด 51 รางวัล คือ รางวัลที่ 1 ทองคำแท่งหนัก 20 บาท จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท จำนวน 10 รางวัล รางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 37 รางวัล รวมมูลค่ารางวัลรวม 1,317,200 บาท โดยมีผู้ถูกรางวัลในหลายจังหวัด กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดพิธีมอบรางวัลสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 ของกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจแก่ผู้ได้รับรางวัลในวันนี้” นายอรรษิษฐ์ กล่าว

นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า การออกสลากบำรุงกาชาดไทย เป็นสลากบำรุงการกุศลที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายให้สามารถจัดได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่อมอบรายได้ให้สภากาชาดไทยไว้ใช้จ่ายในกิจการสาธารณกุศลเท่านั้น เนื่องจากสภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการสาธารณกุศลเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน จึงขอเชิญชวนช่วยกันสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจการของสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากต่อไป

“สิ่งที่ทุกท่านได้ช่วยสภากาชาดไทยในวันนี้ ด้วยการซื้อสลากบำรุงสภากาชาดไทย 1 ใบ เงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากหลังหักค่าใช้จ่าย กระทรวงมหาดไทยจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยในการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ทั้งเรื่องยาเวชภัณฑ์ ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ถือเป็นการสร้างบุญร่วมกัน ถือว่า “เราช่วยกาชาด กาชาดช่วยเรา” แต่ที่พิเศษกว่าคนอื่น คือ เป็นการทำบุญที่มีโชค และหลังจากนี้ ขอให้ได้ชักชวนเพื่อน ๆ ช่วยกันทำความดี ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก และร่วมกิจกรรมบำรุงสภากาชาดไทยกับกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนในอนาคตต่อไป” นายอรรษิษฐ์ กล่าว