เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ร.ต.อ.สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน)สภ.ย่อยนาข่า ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานี ว่ามีพระภิกษุ อายุ 65 ปี พระลูกวัด เสียชีวิตหน้ากุฎิข้างประตูโขงวัดศรีเมืองคุณ หรือ วัดบ้านเชียงพัง ม.3 ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จุดบริการหนองบ่อ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้าน พระลูกวัดศรีเมืองคุณ และพระลูกวัดบ้านดงยาง นั่งและยืนอยู่รอบกุฏิ หน้ากุฏิพบศพพระหลวงตารินลา กลางประพันธ์ อายุ 65 ปี พระลูกวัดบ้านดงยาง ต.นากว้าง สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตคาผ้าเหลืองประมาณ 30 นาที ตรวจสอบไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายและต่อสู้

สอบสวนนายณัฐพล ใจสุข อายุ 35 ปี ลูกศิษย์วัดศรีเมืองคุณและเป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ให้การว่า วันนี้ที่วัดมีงานฌาปนกิจศพ เจ้าภาพจึงนิมนต์พระตามหมู่บ้านใกล้เคียงมาสวดมาติกาบังสกุลให้แก่ผู้วายชนเมื่อพระหลวงตารินลาฯ เดินทางด้วยรถกระบะถึงกุฏิในวัดที่เกิดเหตุได้เดิลงมาจากรถ บอกว่ากระหายน้ำ ตนจึงนำน้ำอุณหภูมิปกติมาให้ฉัน

”แต่พระหลวงตารินลาฯ บอกว่าอยากฉันน้ำเย็น พร้อมกับตัดขวดพลาสติกน้ำอัดลมเป็นภาชนะและให้ตนนำน้ำจากตู้เย็นมาถวาย หลวงตารินลาฯ ได้รินน้ำเย็นใส่ขวดพลาสติกและยกน้ำเย็นเกือบ 1 ลิตรดื่มเพียงครั้งเดียว จากนั้นท่านก็หงายหลังล้มลงนอนหมดสติกับพื้นกุฏิ และมีอาการเกร็ง ตนได้ปั๊มหัวใจ 3 รอบ แต่ก็ไม่ฟื้นกลับมา จึงโทรฯแจ้งตำรวจและแพทย์เวรมาตรวจสอบคาดว่าหลวงตาเป็นลมแดด หรือฮีทสโตรก ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” นายณัฐพล กล่าว

ด้านพระอาจารย์มังกร ยโสธโร พระลูกวัดบ้านดงยาง เปิดเผยว่า พระหลวงตารินลา บวชมาได้ 12 พรรษา และธุดงค์มาจาก จ.มุกดาหาร มาจำพรรษาที่วัดบ้านดงยางได้ประมาณ 8 ปี ท่านไม่มีโรคประจำตัวและแข็งแรงดี มีแต่อาการปวดขา เมื่อวานอาตมาและหลวงตารินลา ก็นั่งรถกระบะไปบอกบุญตามหมู่บ้าน หรือที่เรียกว่างานบุญข้าวแผ่ โดยหลวงตารินลา นั่งอยู่ท้ายกระบะรถ และท่านบ่นว่าอากาศร้อนมาก หิวน้ำบ่อย และรู้สึกอาการไม่สู้ดี อาตมาจึงให้มานั่งข้างหน้าแทน

”กระทั่งวันนี้หลวงตารินลา ถูกนิมนต์มาร่วมสวดมาติกาบังสกุลงานศพที่วัดศรีเมืองคุณ หรือวัดบ้านเชียงพังร่วมกับพระตามหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ ต.นากว้างส่วนอาตมาก็ไปบอกบุญข้าวแผ่ตามหมู่บ้าน ก็มีญาติโยมโทรมาบอกว่าพระหลวงตารินลา ช็อกเสียชีวิตที่วัดแห่งนี้ จึงรีบกลับมาดูเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดบ้านดงยาง ที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสาเหตุที่ทำให้ท่านเสียชีวิตคาดว่าจากอากาศที่ร้อนจัด” พระลูกวัดบ้านดงยาง กล่าว

เบื้องต้นสันนิฐานว่าเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน จากอากาศร้อนจัด ซึ่งในตัวเมืองอุดรธานีอากาศร้อนระอุทะลุ 42.5 องศาเซลเซียส ทำให้หลวงตาเป็นลมแดด ภายในร่างกายร้อนขาดน้ำหรือที่เรียกว่า “ฮีทสโตรก” ทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ และเกิดอาการช็อกเสียชีวิต ชาวบ้านและญาติโยมไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.