เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่โดมอเนกประสงค์โรงเรียนกำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่วันนี้ ว่ามาในฐานะความเป็นรัฐบาล และนำรัฐมนตรีที่อยู่ในกำกับดูแลของตนกระจายลงในพื้นที่ทั่ว จ.ศรีสะเกษ เพื่อมารับฟังปัญหา และแก้ไขปัญหา เป็นการมาติดตามการดำเนินการต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล เช่น การจัดตั้งตลาดนัดเจ้าหนี้นอกระบบ การดูระบบไฟฟ้า น้ำประปา ว่ายังขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้าง เพราะเรามีนโยบายน้ำประปาดื่มได้ และการเข้าถึงการใช้น้ำประปา ถ้าเราใช้จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งเป็นโมเดลได้สำเร็จ ก็จะใช้โมเดลเดียวกันเร่งกระจายไปจังหวัดอื่นได้ด้วย

เมื่อถามว่า บนเวทีปราศรัย นายอนุทินได้พูดว่าหลังจากนี้จะทำงานอย่างดุเด็ดเผ็ดมันหมายความว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสีสันในการปราศรัย เพราะการทำงานต้องเข้มข้นอยู่แล้ว ชาวบ้านเลือกเรา ก็มาให้ทำหน้าที่ให้บ้านเมือง ดังนั้นต้องใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า และเกิดประโยชน์ 

เมื่อถามว่า ในยุคที่นายอนุทินเป็น รมว.มหาดไทย จะได้เปิดชายแดนเขาพระวิหารหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำเสนอร้องขอให้พิจารณาแนวชายแดนด้านเขาพระวิหาร โดยเน้นเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยว การค้าชายแดนเป็นหลัก หากสังเกตดู ต้องยอมรับว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับเขาพระวิหารคือกัมพูชา มีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น มีการเดินทางไปมาหาสู่กันของผู้นำ และมีความร่วมมือด้านต่างๆ มากมาย ดังนั้น อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน

เมื่อถามว่า ยังติดปัญหาอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นปัญหาเรื่องความสัมพันธ์เก่าๆ วันนี้คิดว่ามีการแก้ไขไปมากแล้ว ส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย เราก็จะเร่งพิจารณา ก็ขอให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจว่า จะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยกับประเทศของเราอย่างแน่นอน จะต้องมีการกลั่นกรองศึกษาผลได้ผลเสีย หากได้มากกว่าก็ต้องเดินต่อไป และก็ไปกำจัดข้อเสีย แต่ถ้าข้อเสียมากกว่าก็จบกัน ไปหาที่อื่น ไปหาแหล่งอื่น ด่านอื่นเปิด

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปพบอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะมีการประสานเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันอยู่ในระเบียบวาระของกระทรวงการต่างประเทศอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คนในพื้นที่อยากให้มีการเปิดพื้นที่เขาพระวิหาร นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเปิดเป็นด่านถาวร คนที่จะมาค้าขายลงทุนจะได้ดูระยะยาวได้ ไม่ใช่ปิดๆ เปิดๆ หากเขาลงทุนอะไรไปเยอะแยะและปิดก็เสียประโยชน์ ดังนั้น ต้องพยายามทำให้เกิดความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเราก็พยายามเร่งทุกฝ่าย 

เมื่อถามย้ำว่า ส่วนจะเปิดได้แน่ในรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีชอบพูดว่า “red tape” หรือ ทลายระเบียบราชการ ก็ทลายทุกข้อจำกัดอยู่แล้ว เป็นนโยบายของท่านนายกฯ เศรษฐา ซึ่งเน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ ที่เป็นตัวผลักดันทำให้ประเทศมีความมั่นคง แต่ถ้าเป็นภาษาพรรคภูมิใจไทย ก็คือทะลายทุกข้อจำกัด ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน มันก็สอดคล้องกัน ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ พรรคภูมิใจไทยขนรัฐมนตรีลงพื้นที่หลายคนมีวัตถุประสงค์อย่างไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก รัฐมนตรีจะไปนั่งในกระทรวงอย่างเดียว 5 วัน ไม่ได้ ต้องออกพื้นที่ เป็นเรื่องปกติที่ควรทำ เพื่อให้เห็นสภาพหน้างาน ไม่ใช่ไปนั่งรอฟังแต่รายงาน ที่บางครั้งเราก็เห็นภาพ การพิจารณาการตัดสินใจต่างๆ จะได้มีประสิทธิภาพ.