เอริกา รัสเซลล์ วัย 33 ปี คุณแม่ยังสาวจากรัฐเทนเนสซี เสียชีวิตอย่างน่าสลดใจหลังจากที่เดินทางมาเข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมความงาม เมื่อปี 2564

รัสเซลล์ ต้องการผ่าตัดยกกระชับบั้นท้ายให้เต่งตึง ได้รูป แบบที่เรียกว่า “Brazillian butt lift” จึงเลือกจองคอร์สผ่าตัดที่คลินิก Seduction Cosmetic Center ที่เมืองคอรัล เกเบิลส์​ รัฐฟลอริดา โดยมีนายแพทย์จอห์น แซมป์สัน เป็นผู้ผ่าตัดทำศัลยกรรมให้เธอ 

ครอบครัวของ รัสเซลล์ ซึ่งยื่นฟ้องร้องต่อศาลไมอามี-เดด เคาน์ตี โดยระบุชื่อของ แซมป์สัน เป็นจำเลย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อ้างว่านายแพทย์ผู้นี้ไม่มีใบอนุญาตให้ทำการผ่าตัดคนไข้

รัสเซลล์ เสียชีวิตเพราะ หมอแซมป์สัน ใช้ท่อกลวงซึ่งปกติใช้สำหรับดูดของเหลวออกจากร่างกาย แทงเข้าไปโดนตับ ลำไส้และกระเพาะปัสสาวะของเธอ หลังจากเริ่มผ่าตัดไปได้ 2 ชม. เศษ รัสเซลล์ ก็เริ่มมีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันและเสียชีวิตในที่สุด

จากสำนวนฟ้องร้องระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ รัสเซลล์ ว่ามีไขมันหลุดเข้าไปอุดตันในปอดและเสียเลือดจากการดูดไขมันใต้ผิวหนัง และเป็นผลมาจากการทำศัลยกรรมผ่าตัดเสริมบั้นท้าย

อนึ่ง Brazillian butt lift เป็นการผ่าตัดยกกระชับและเสริมบั้นท้ายด้วยการดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายคนไข้และนำไปฉีดเข้าที่บริเวณบั้นท้ายเพื่อให้ได้รูปทรงตามต้องการ

ครอบครัวของ รัสเซลล์ อ้างว่า แซมป์สัน ไม่มีสิทธิผ่าตัดคนไข้ที่คลินิกดังกล่าว แต่ทางคลินิก Seduction ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้เช่นกัน ได้ปลอมแปลงเอกสารและหลอกลวงว่า แซมป์สัน เป็นหมอผ่าตัดที่เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น ซึ่งเป็นความเท็จ 

ฝ่ายโจทก์ยังกล่าวหาว่า แซมป์สัน ไม่ใช่หมอศัลยกรรม แต่มีตำแหน่งในคลินิกเป็นเพียง “ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์” เท่านั้น โดยมีหน้าที่ดูแลมาตรฐานการรักษาและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ตรงตามข้อกำหนดทางกฎหมาย นอกเหนือไปจากว่าเขาไม่มีใบประกอบโรคศิลป์สำหรับการทำหัตถการหรือศัลยกรรม

นอกจากนี้ ก่อนหน้าที่จะลงมือผ่าตัดให้ รัสเซลล์ หมอแซมป์สันได้ผ่าตัดทำศัลยกรรมให้คนไข้ไปแล้วถึง 6 ราย รวมเวลาผ่าตัดทั้งหมด 14 ชม.

ทางคลินิกและ แซมป์สัน ยังไม่มีแถลงการณ์ชี้แจงใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุสลดใจกับ รัสเซลล์ แล้ว แซมป์สัน โดนสั่งห้ามทำการผ่าตัดใด ๆ ที่คลินิก Seduction และโดนปรับเงินไป 20,000 เหรียญสหรัฐ (ราว  709,080  บาท) แต่ไม่มีการยึดใบอนุญาตทางวิชาชีพแต่อย่างใด

ที่มา : nbcnews.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES