เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เจ้าหน้าที่วิทยุ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชายคลุ้มคลั่งอาละวาดตีลูกชายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนชุมชนคตกฤต ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม

เมื่อไปถึงพบนายโยธิน (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ยืนอยู่กับ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) วัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายของนายโยธิน ซึ่งกำลังยืนร้องไห้ ตามร่างกายมีบาดแผลฟกช้ำ ที่ต้นคอด้านหลังพบว่ามีรอยแผลพองเป็นทางยาว เนื่องจากถูกสายยางฟาดเข้าที่ต้นคออย่างแรง ใบหน้ามีรอยบวมช้ำจากการถูกตบ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธมีดทำครัวขนาด 7 นิ้ว ตกอยู่ และพบยาบ้าจำนวน 3 เม็ด และยาบ้าหล่นอยู่ที่พื้นอีก 1 เม็ด ส่วนอีก 1 เม็ด ถูกล้อรถเหยียบจนแตกละเอียดเป็นผง รวมทั้งหมด 5 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงเก็บเป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายโยธิน ซึ่งยังคงให้การวกวนว่า ตนเองประกอบอาชีพรับจ้าง ก่อนเกิดเหตุได้ชวนลูกชายขี่รถ จยย. ไปหาข้าวที่วัดกลับมากิน จากนั้นได้แวะซื้อยาบ้าจำนวน 5 เม็ด โดยใส่ถุงพลาสติกแล้วยัดใส่กระเป๋าวางไว้ที่บริเวณตะกร้ารถ จยย. แต่ปรากฏว่าในระหว่างทางกระเป๋าหาย จึงได้ต่อว่าลูกชายและตบตีทำร้ายร่างกาย

นายโยธิน กล่าวอีกว่า ซื้อยาบ้ามาเพียงเม็ดละ 30-40 บาท เท่านั้น วันหนึ่งจะเสพยาบ้า 2-3 เม็ด โดยยอมรับอีกรับว่า เพิ่งเสพยาบ้าช่วง 20.00 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจสารปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ก่อนขยายผลเชื่อมโยงไปสู่ผู้ค้ารายใหญ่ต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัว ด.ช.เอ ไปทำแผลและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนครปฐม ขณะนี้อยู่ในความดูแลของผู้เป็นย่า ซึ่งได้ชี้ร่องรอยบาดแผลที่ต้นคอและใบหน้าให้ดู พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อพาขี่รถ จยย. ไปแถวตลาดซอย 2 และไปวัดเพื่อไปหาข้าวมากิน ตอนนั้นตนถือกระเป๋าสตางค์ของพ่ออยู่ แต่ปรากฏว่าได้ทำหายไป ด้วยความกลัวจึงไปหลบข้างรถ ก่อนจะถูกตีด้วยสายยาง จากนั้นพ่อก็ใช้หลังมือตบอย่างแรง ตนไม่ร้อง เพราะพ่อเคยบอกว่าถ้าร้องจะถูกตบหนักกว่าเดิม เพราะคิดว่าสำออย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการซื้อยาบ้าในช่วงนี้ ผู้ซื้อมักชอบพาเด็กติดตามไปด้วย เนื่องจากเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ.