เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีจิตรวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการยื่นตรวจสอบการใช้งบประมาณ ปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลและปูหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า 138 ล้านบาท ว่า งบประมาณที่นำมาใช้ดำเนินการปรับปรุงทำเนียบ เป็นงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำปี 2567 ซึ่งถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 มีทั้งหมด 12 รายการ โดยไม่เคยปรากฏอยู่ในปีงบประมาณ 2566 มาก่อน ดังนั้นหากจะนำเงินมาใช้ปรับปรุงทำเนียบ ต้องเป็นงบผูกพันในงบประมาณปี 2566 เท่านั้น จะนำมาใช้ไปพลางก่อนไม่ได้ เพราะเป็นรายจ่ายลงทุน ไม่ใช่รายจ่ายประจำ อย่างเงินเดือนข้าราชการ

“ดังนั้นการปลูกหญ้าหน้าทำเนียบ โดยใช้งบฯ ปี 2567 ล่วงหน้า จึงส่อว่าจะผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 และ 144 วรรคสาม ซึ่งหาก ครม. รู้แล้วไม่ระงับยับยั้ง ให้แจ้งเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบในทางลับ เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยภายใน 15 วัน แม้จะโต้แย้งว่าการดำเนินการปรับปรุงในส่วนอื่นยังไม่เสร็จสิ้น แต่การปูหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ถือว่าเสร็จสิ้นเป็นที่ประจักษ์แล้ว” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ในวันที่ 13 มี.ค. ตนได้เสนอคำแปรญัตติ ขอปรับลดงบประมาณทั้ง 12 รายการ จำนวน 138 ล้านบาท ออกจากงบประมาณรายจ่ายปี 2567 และจะอภิปรายในวาระ 2 และแม้ว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร การดำเนินการปูหญ้าก็ยังถือว่ามีความผิดตามมาตรา 144 อยู่ เพราะงบประมาณยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสภา และไม่มีที่มาของงบฯ ที่นำมาปรับปรุงทำเนียบ ซึ่งหากการแปรญัตติเสนอขอปรับลดงบประมาณเสร็จสิ้นในวันที่ 13 มี.ค. ตนก็จะส่งเอกสารให้ ป.ป.ช. ทางไปรษณีย์ในวันที่ 14 มี.ค. เพื่อให้ทันต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 วาระ 2 วาระ 3 หากพบว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญจริง ก็จะมีความผิดทั้ง ครม. ทำให้จะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ดังนั้นจะต้องรอดูว่า หญ้าจะเขียวหรือใครจะหน้าเขียวกันแน่.