เมื่อวันที่ 16 มี.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าร่วมกับภาคประชาสังคม โดยทันทีที่นายพิธามาถึง ได้มีแฟนคลับจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน ผู้โดยสาร ผู้ประกอบการ และลูกจ้างร้านอาหารในสนามบินที่ทราบมารอต้อนรับ พร้อมขอถ่ายรูปด้วย และไปส่งถึงรถ

นายพิธา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงประเด็นที่มีการเปรียบเทียบการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของนายพิธากับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาเปรียบเทียบกัน เราเอาปัญหาของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง แล้วข้อมูลก็เห็นชัดกันอยู่ว่าปีนี้หนัก เราในฐานะฝ่ายค้าน เป็น สส. เป็นผู้แทนราษฎร ถ้าจะพูดได้ ก็ต้องเห็นจริง

เมื่อถามว่าอาจจะถูกมองว่าเป็นการวัดพลังมวลชน นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวัดพลัง มันไม่ใช่เวลาที่จะมาเปรียบเทียบอะไร เราต้องคิดว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนเร็วที่สุดได้อย่างไร แต่ถอดบทเรียนได้อย่างไร ที่ปีหน้าเวลาเดิม ปัญหาฝุ่นจะทุเลาลงกว่านี้

“ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้ก็คือตอนนี้เชียงใหม่แย่ที่สุด ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้คือก้าวไกลมี สส. 7 คน จาก 10 คน เถียงไม่ได้คือพรรคก้าวไกลเป็นประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม สส. เป็นฝ่ายค้าน มันก็ต้องทำหน้าที่ เพราะฉะนั้น เราเอาประชาของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาใครมาเป็นตัวตั้ง” นายพิธา กล่าว

ส่วนจะเป็นการปูทางไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกัน ที่ผ่านมา การเดินสายของตน วันเสาร์อาทิตย์จะลงพื้นที่เพื่อดูปัญหาประชาชน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เราเอาไฟป่าเป็นที่ตั้ง เพราะมีความฉุกเฉินจริงๆ พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวด้วยความตกใจว่า หนักขนาดนี้โรงเรียนยังไม่หยุดใช่หรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ทำให้ไม่สามารถใช้งบได้ ดังนั้นการเป็นผู้แทนราษฎร ก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้

“ฝ่ายค้านก็ต้องทำงานเหมือนกัน ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว มีออก พ.ร.บ. ห้ามฝ่ายค้านทำงานหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ เราก็มีหน้าที่ต้องทำงานเหมือนกัน” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้าจะอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2-3 แล้ว พรรคก้าวไกลจะอภิปรายเรื่องนี้อย่างแน่นอน ส่วนจะอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 หรือไม่ ต้องรอดู ยังไม่ถึงเวลาเฉลย

เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลลดลงหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องกระแส คงทำงานให้เต็มที่ เพราะปัญหาสำคัญมีเยอะ

“วิกฤติของเชียงใหม่ ตอนนี้สำคัญมากกว่ากระแสของพรรคอยู่แล้ว เดี๋ยวก็จะมีอภิปรายงบประมาณ อภิปรายทั่วไป ต้องบินไปประชุมรัฐสภาสากลที่เจนีวาอีก ทำงานในช่วงเวลาสำคัญ และในวิกฤติของพรรคไม่ได้เป็นความลับอะไร เรื่องยังอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวย้ำว่า ไม่ได้คิดถึงกระแสของนายทักษิณ จะทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลลดลง เรื่องคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังเร็วเกินไป ที่ยังจำได้ไม่ลืมก็คือการเลือกตั้งที่ผ่านมา คนเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิกันเยอะ 81% แล้วพรรคก้าวไกลก็ได้มาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้มองไปในอนาคต แต่มองที่ปัจจุบันและย้อนไปที่อดีต และไม่ลืมความไว้วางใจที่พี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ไว้กับพวกเรา

“ถึงเวลาจะผ่านมา 8 เดือน ก่อนที่ท่านให้ความไว้วางใจเป็นอย่างไร หลังจากที่ท่านให้ความไว้วางใจมาแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งตอกย้ำเหตุผลว่า ทำไมอดีตหัวหน้าพรรคหรืออดีตแคนดิเดตนายกฯ คนนั้น ต้องมาเชียงใหม่ในช่วงที่เขาลำบากมากที่สุดด้วย” นายพิธา กล่าว.