นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร.) จ.พะเยา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งสำนักงานการ ททท.จังหวัดพะเยา ภายในปลายปีนี้ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปศึกษาการประกาศให้จังหวัดพะเยา เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบิน จ.พะเยา

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การตั้ง ททท.สำนักงานพะเยา จะช่วยบูมการท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา และเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับ สปป.ลาว โดยสามารถเดินทางข้ามไปหากันได้ผ่านด่านบ้านฮวก ซึ่งจะสามารถปั้นจังหวัดพะเยาให้เป็นศูนย์กลางหรือฮับการท่องเที่ยวตามเป้าหมายรัฐบาลในปี 68 รวมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างไทยและ สปป.ลาว ได้ และการทางรถยนต์จากด่านบ้านฮวกไปยังหลวงพระบาง มีระยะทาง 297 กิโลเมตร

จึงเชื่อว่าจะปั้นเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่เชื่อมระหว่างไทยกับ สปป.ลาว สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้มีการเชื่อมการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ อยากผลักดันให้ด่านฝั่งลาว เป็นด่านนานาชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวประเทศที่ 3 ผ่านได้ด้วย จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ เพราะปัจจุบันต้องให้นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ 3 ไปผ่านทางด่านเชียงของ จ.เชียงราย แทน

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. กล่าวว่า ททท. เล็งเห็นถึงประโยชน์และข้อดี หากมีการจัดตั้ง ททท.สำนักงานพะเยา จะทำให้เกิดการประสานงาน และร่วมทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้อย่างใกล้ชิด ในการให้คำปรึกษาต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวที่พร้อมขาย และการดำเนินงานด้านส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวของ จังหวัดพะเยาได้อย่างมีประสิทธิภาพสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดพะเยาเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งเกิดการคล่องตัวในการปฏิบัติงาน และบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากในปัจจุบันทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และจะเป็นหน่วยงานทำหน้าที่หลักด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาด การท่องเที่ยวในท้องที่ ตลอดจนสามารถกำหนดทิศทางการตลาดการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดได้เป็นอย่างดี และร่วมขับเคลื่อนโครงการ หรือกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวสู่จังหวัดพะเยาได้ต่อเนื่อง

น.ส.สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่า ได้ปรับกลยุทธ์ในการส่งเสริมตลาดในประเทศใหม่ เพื่อช่วยกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือประสบปัญหาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จนนักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง โดยจะนำงบประมาณประจำปี 2567 ที่เริ่มใช้ได้ในเดือน พ.ค. มาทำการตลาดในรูปแบบของโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินในประเทศ จะช่วยให้ราคาค่าโดยสารถูกลง และเพื่อให้เกิดไฮซีซั่นในฤดูฝน ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการเที่ยววันธรรมดาเพิ่มขึ้น โดยร่วมกับอโกด้า จัดราคาที่พักมีส่วนลดพิเศษ เริ่มในเดือน พ.ค. นี้เช่นกัน และทำให้ปี 2567 เป็นปีที่เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ในช่วงเดือน มี.ค. ยอดนักท่องเที่ยวปรับตัวลงอย่างมากและจะต่อเนื่องไปถึง เม.ย. จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ซึ่งปกติในช่วงนี้ต้องมียอดจองห้องพัก 70-80% ของจำนวนห้องพักในจังหวัดที่มี 18,000 ห้อง จากโรงแรมประมาณ 600 แห่ง แต่กลับพบว่าลดลงประมาณ 37.5% เหลือยอดการจองห้องพักเพียง 50% จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง