สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี ) อภิปรายและหยั่งเสียง ร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐ ซึ่งระบุ “การหยุดยิงทันทีและยั่งยืน” ในฉนวนกาซา เพื่อนำไปสู่การสนับสนุนความพยายามทางการทูตของทุกภาคส่วน เพื่อการหยุดยิงถาวร และการปล่อยตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด


ผลการลงมติปรากฏว่า 11 ประเทศออกเสียงสนับสนุน กายอานางดออกเสียง แต่มี 3 ประเทศคัดค้าน ได้แก่ แอลจีเรีย รัสเซีย และจีน ซึ่งการที่รัสเซียและจีน ใช้สิทธิวีโต้ในฐานะสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี หมายความว่า ร่างมติซึ่งเสนอโดยสหรัฐ มีอันต้องตกไป


ด้านนางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ท่าทีของรัสเซียและจีนต่อการลงมติครั้งนี้ “ถือเป็นการเหยียดหยาม” ขณะที่นายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวว่า ร่างมติของสหรัฐ “มีความเป็นการเมืองมากเกิน” เนื่องจากไม่มีเนื้อหาส่วนใด สื่อถึงความพยายามยับยั้งการที่อิสราเอลเตรียมปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน ในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา

นายอมาร์ เบนด์จามา เอกอัครราชทูตแอลจีเรีย และนายจาง จวิน เอกอัครราชทูตจีน ออกเสียงคัดค้าน ร่างมติของสหรัฐ ซึ่งเรียกร้องการหยุดยิงและการปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 22 มี.ค. 2567


ส่วนนายจาง จวิน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า สหรัฐเจตนาใช้ภาษาคลุมเครือในร่างมติ และไม่มีการให้คำตอบอย่างชัดเจน เกี่ยวกับคำถามของทุกฝ่าย ต่อการหยุดยิงที่เป็นการเสนอในระยะสั้นเท่านั้น


ทั้งนี้ รัสเซีย จีน และแอลจีเรีย ยืนยันว่า ร่างมติใหม่ ต้องรวมเรื่องการป้องปรามไม่ให้อิสราเอลปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ อีกด้านหนึ่ง นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเยือนอิสราเอลที่ผ่านมา แสดงความไม่พอใจต่อการวีโต้ของจีนและรัสเซีย แต่เน้นย้ำว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินของอิสราเอล ในเมืองราฟาห์ ตราบใดที่ยังไม่มีการนำเสนอแผนการอพยพและช่วยเหลือประชาชนอย่างชัดเจน.

เครดิตภาพ : AFP