สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ว่า รัฐบาลออตตาวา เสนอให้มีการลดจำนวนผู้พำนักชั่วคราว จาก 6.2% ของประชากรทั่วแคนาดาในปัจจุบัน หรือประมาณ 2.5 ล้านคน เหลือ 5% ของประชากรทั้งประเทศ ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้

เป้าหมายดังกล่าวจะมีความแน่นอนยิ่งขึ้น ภายหลังการปรึกษาหารือกับรัฐต่าง ๆ ของแคนาดา ซึ่งบางรัฐพยายามจัดการกับการหลั่งไหลเข้าประเทศของผู้อพยพจำนวนมาก ท่ามกลางปัญหาด้านที่อยู่อาศัย และความต้องการบริการที่สูงขึ้น

อนึ่ง การจำกัดใบอนุญาตของแรงงานชั่วคราวต่างชาติ จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ค. นี้ และดำเนินการตามการจำกัดใบอนุญาตชุดใหม่สำหรับนักเรียนต่างชาติ รวมถึงการตรวจลงตราสำหรับนักเดินทางชาวเม็กซิกันบางคน ซึ่งรัฐบาลออตตาวา ประกาศเมื่อไม่นานมานี้

“แคนาดามีจำนวนผู้พำนักชั่วคราวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นักเรียนต่างชาติ ไปจนถึงแรงงานต่างชาติที่เติมเต็มตำแหน่งงานว่าง ตลอดจนผู้ที่หลบหนีจากสงครามและภัยพิบัติทางธรรมชาติ” นายมาร์ก มิลเลอร์ รมว.การอพยพแคนาดา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานของแคนาดาในปัจจุบัน มีความตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากจำนวนประชากรในประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการอพยพครั้งใหญ่ มีตัวเลขแซงหน้าการสร้างงาน

ด้านนายแรนดี บัวซันโนต์ รมว.การจ้างงานแคนาดา เรียกร้องให้บรรดานายจ้างพิจารณาจ้างงานผู้ลี้ภัย ก่อนรับแรงงานชั่วคราวต่างชาติเข้ามา ขณะที่กระทรวงการอพยพแคนาดา ได้รับคำสั่งจากมิลเลอร์ ให้ดำเนินการทบทวนโครงการแรงงานชั่วคราวที่มีอยู่ เพื่อทำให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงาน และขจัดการละเมิด.

เครดิตภาพ : AFP