สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่านางเอวา ลอว์เลอร์ มุขมนตรีดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ลงนามในคำสั่งเคอร์ฟิวสำหรับผู้มีอายุไม่ถึง 18 ปี ในการเข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองอลิซสปริงส์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของดินแดน ระหว่างเวลา 18.00-06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 27 มี.ค.


หากตำรวจพบตัวผู้ที่ฝ่าฝืน จะนำตัวบุคคลนั้นกลับไปส่งให้แก่ผู้ปกครองถึงที่บ้าน หรือนำตัวไปพำนักชั่วคราว ณ สถานที่ปลอดภัย โดยตลอดช่วงเวลาเคอร์ฟิว จะมีกำลังตำรวจในเครื่องแบบลาดตระเวนมากขึ้นเป็นพิเศษด้วย


ทั้งนี้ เมืองอลิซสปริงส์ซึ่งมีประชากรราว 25,000 คน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาทางสังคมและอาชญากรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ปัจจัยสำคัญรวมถึง ความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ระหว่างชุมชนชาวอะบอริจินกับชาวผิวขาวในเมืองแห่งนี้ และความพยายามของภาครัฐ ในการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก


สำหรับการออกคำสั่งดังกล่าวของทางการนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี มีชนวนเหตุมาจากการเสียชีวิตของเด็กหนุ่มวัย 18 ปี เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างหลายครอบครัวในเมืองอลิซสปริงส์ จนบานปลายกลายเป็นการตะลุมบอน และมีการทำลายทรัพย์สิน ที่ผับขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมือง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างน้อย 5 คน และยึดอาวุธมากกว่า 50 รายการ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES