นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) กล่าวว่า จะมีการเสนอรายงานศึกษาผลกระทบการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร เข้าสู่ที่ประชุม ครม. วาระเพื่อทราบ ภายใน 2 สัปดาห์นี้ หาก ครม. เห็นด้วยกับแนวทางการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ก็จะมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบเดินหน้าจัดทำกฎหมายต่อไป แต่ถ้ามีมีความเห็นเพิ่มเติมก็จะต้องศึกษา ปรับปรุงเพื่อให้เกิดความรอบคอบ


“ถ้าไม่มีข้อติดขัดอะไร คาดกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เกิดขึ้นได้ภายใน 3 ปี หรือภายในสมัยรัฐบาลชุดนี้ โดยหลักการของกฎหมาย ไม่ได้รวมถึงการเปิดพนันออนไลน์ เพราะมองว่ายังควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะการเข้าถึงของเยาวชน ที่สำคัญไม่ใช่หมายถึงการเปิดกาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่จะหมายถึงการลงทุนธุรกิจบันเทิงขนาดใหญ่หลายแสนล้าน อย่าง มารินา เบย์ แซนส์ ของสิงคโปร์ ที่มีการลงทุนหลัก 2-3 แสนล้านบาท และช่วง 15 ปี ช่วยลดการพนันผิดกฎหมายจาก 2.4% เหลือ 0.2% ของจีดีพี สร้างรายได้เข้ารัฐกว่า 3 แสนล้านบาทในช่วง 10 ปี ยังไม่นับรวมเม็ดเงินที่ได้จากภาคการท่องเที่ยว รวมถึงเงินกองทุนดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการพนันอีก 5-6 พันล้าน”


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะมีการกำหนดการลงทุนในแต่ละพื้นที่ได้ เช่น บางพื้นที่เหมาะสมกับการทำสวนสนุกธีมปาร์ค บางพื้นที่เหมาะกับการจัดศูนย์ประชุม หรือบางพื้นที่เหมาะกับการจัดสนามแข่งกีฬา หรือแข่งรถเอฟ 1 แต่ยังไม่กำหนดว่าจะเป็นพื้นที่ใด หรือใครมาลงทุน แต่มีเงื่อนไขควรมีระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โรงแรมที่มีความพร้อม