เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวลือการปรับ ครม.ตรงนี้มีจริงหรือไม่ โดยนายกฯ ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “ข่าวลือ ท่านพูดถูกคำว่าข่าวลือ ข่าวลือมันก็จบที่ข่าวลือ”

เมื่อถามว่าแต่มีข่าวถึงขั้นว่าจะดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ไม่เคยมีการพูดคุย อย่างที่ผมเรียนแล้วว่า 314 เสียงก็แข็งแกร่งพอแล้วในตรงนี้ เรามีความสมัครสมานสามัคคี พูดจากันรู้เรื่องอยู่แล้ว งบประมาณยังไม่ออกเลย วันนี้พูดกันถึงงบประมาณและการขับเคลื่อนประเทศ ก็ต้องมีการทำงานอย่างจริงจังในตอนนี้ 

เมื่อถามต่อว่าสมมุติว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังเหลือโควตาอีก 1 ที่ อาจจะต้องมีการขยับเขยื้อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวตอบทันทีว่า “สมมุติก็คือสมมุติ เพราะท่านบอกว่าสมมุติ เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่าในวันนี้”

เมื่อถามย้ำว่ายังคงสัดส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลไว้เช่นเดิมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ เป็นข้อตกลงที่ชัดเจนอยู่แล้วในตรงนี้  ส่วนยังยืนยันโควตาเดิมของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เป็นโควตาเดิมที่อยู่มานานแล้ว เช่นเดียวกับโควตาของพรรคเพื่อไทยก็เป็นโควตาเดิมที่มีมานานแล้ว 

เมื่อถามอีกว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการเรียกรองนายกฯและรัฐมนตรีเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้มีการพูดคุยเรื่องการปรับ ครม. หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยเรื่องเขตการค้าเสรี (FTA) มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์  นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์  รวมถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยมีการพูดคุยถึง FTA และการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) แต่ไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เลย ไม่มีเฉี่ยวมาเลยแม้แต่สักนิดเดียว

“อยากให้รัฐมนตรีทุกคนได้ตั้งใจทำงานดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด และมันเป็นเรื่องของใจเขาใจเรา หากมีกระแสออกไป แล้วท่านรู้ว่าท่านจะต้องถูกปรับออกไป ก็อาจจะมีความกังวล และจุดโฟกัสก็อาจจะเปลี่ยนไป ตนเชื่อว่าที่เรามายืนอยู่จุดนี้เราเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เราควรจะทำงานให้เต็มที่” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามถึงจุดยืนและหลักเกณฑ์ของนายกรัฐมนตรี หากจะมีการปรับ ครม. มีอะไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าเกิดว่าทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องมีการพิจารณาตรงนี้.