เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) หรือ ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 (ศูนย์ AOC) ร่วมประชุมและหารือมาตรการป้องกันภัยมิจฉาชีพออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด และตัวแทนธนาคาร โดยมี นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้แทนประธานสมาคมธนาคารไทยเข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้ นายพงษ์สิทธิ์ พร้อม พล.ต.ท.จิรภพ ได้นำเช็คเงินสด 4 ใบ มูลค่าเกือบ 13 ล้านบาท มามอบคืนให้ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดเงินไว้ได้ทันเวลา โดยผู้เสียหายรายแรกเป็นชายอายุ 70 ปี ถูกคนร้ายปลอมเป็นกูรูให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทักแชตทำทีคอยให้คำปรึกษาแนะนำการลงทุน จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้เพื่อฝากลงทุน สุดท้ายมารู้ตัวว่าถูกหลอก สูญเงินไปร่วม 10 ล้านบาท

อีกรายคนร้ายโทรศัพท์มาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย หลอกผู้เสียหายมีชื่อเป็นบัญชีม้ารับเงินผิดกฎหมาย ก่อนโอนสายให้ชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุยจึงเสียท่าถูกหลอกให้โอนเงินสูญกว่า 1.4 ล้านบาท

นายพงษ์สิทธิ์ ผู้แทนประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า จากข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันกับ บช.ก. ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มีการเฝ้าสังเกตบัญชีม้าต้องสงสัยอยู่แล้ว เมื่อพบว่ามียอดเงินโอนเข้ามาผิดปกติ ทางธนาคารจึงอายัดบัญชีดังกล่าวทันที พร้อมทั้งประสานไปยังศูนย์ AOC เพื่อรีบติดต่อผู้เสียหายทำให้สามารถระงับยับยั้งผู้เสียหายไม่ให้โอนเงินอย่างทันท่วงที โดยยอมรับว่าการหยุดบัญชีผิดกฎหมายจนนำมาสู่การคืนเงินผู้เสียหายไม่ใช่เรื่องง่ายต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างกัน

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ทางรัฐบาล, ศูนย์ AOC, ธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศ, ปปง. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการทำงานประสานข้อมูลร่วมกันอย่างเข้มงวดและจริงจังในการปราบอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ เพื่อบรรเทาความเสียหายให้กับประชาชน แต่ท่านต้องป้องกันตัวเองด้วยการไม่เชื่อ ไม่หลงกล หากมีเบอร์ไม่รู้จักโทรฯเข้ามาติดต่อให้โอนเงินอย่างเด็ดขาด