เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงดาว, แม่แตง, ไชยปราการ, ฝาง และพร้าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงจำเป็นต้องบริหารสถานการณ์ให้เหมาะสมมากที่สุด ด้วยการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยดังกล่าว

โดยล่าสุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการสั่งการให้เร่งปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ โดยใช้กำลังหน่วยปฏิบัติปกติ ร่วมกับกำลังทหารที่มีอยู่ในชุดแรกเริ่มอ่อนล้า และต้องการกำลังสนับสนุนมากกว่าที่เป็นอยู่เพิ่มการใช้กำลังทหารให้เหมาะสมกับสภาพความรุนแรงของสถานการณ์ และเปิดโอกาสให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เงินทดรองราชการในส่วนของตัวเองได้ โดยมีระเบียบกระทรวงการคลังรองรับหลังการประกาศ เพื่อการใช้จ่ายงบประมาณที่ถูกต้องเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในทางการบริหารสถานการณ์มากที่สุด ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว เพื่อขอกำลังทหารเข้าไปช่วยเขตป่าอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติมากขึ้น

ในส่วนของภาคประชาชนนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังได้มีการเร่งดูแลและลดผลกระทบด้านสุขภาพประชาชน โดยมุ่งเน้นไปยังประชาชนกลุ่มเปราะบาง ทั้งการจัดการบริการทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ยาอย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพ การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้คำแนะนำและบริการตรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเปราะบางในชุมชน เฝ้าระวัง ควบคุมโรคหรืออาการจากการสัมผัสฝุ่น การติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยงสูง ให้ตระหนักรู้ดูแลสุขภาพ ป้องกันลดผลกระทบสุขภาพ อาการกำเริบ และมอบหน้ากากป้องกันฝุ่นฟรี ส่วนกลุ่มผู้ป่วยรุนแรง รุนแรงมากและยากไร้ ได้รับมุ้งลดฝุ่น ภายใต้กองทุนสุขภาพตำบลในพื้นที่

นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งมีระบบแจ้งเตือนคุณภาพอากาศตลอด 24 ชม. จัดทำห้องลดฝุ่น (Clean Air Room) ไม่ต่ำกว่า 3 ห้อง ต่อ 1 อปท. กรณีพื้นที่ประสบภัยสภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันมากกว่า 5 วันขึ้นไป ต้องส่งเสริมหรือดำเนินการให้มีพื้นที่ปลอดภัยห้องลดฝุ่นกลางสำหรับกลุ่มเปราะบาง หรือพื้นที่เฉพาะ (บ้าน) รวมทั้งเข้าเป็นสมาชิก ประเมินตามเกณฑ์ห้องลดฝุ่น ในระบบ www.lodfoon.con จังหวัดเชียงใหม่

ในส่วนของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสั่งการให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเครือข่ายบริการทุกภาคส่วน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการดูแล ป้องกันลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน มุ่งเน้นครอบคลุมกลุ่มเปราะบาง 420,129 คน ภายใต้งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โดยฉับพลันทันที

สำหรับสถานการณ์ค่าปริมาณฝุ่นละออกขนาดเล็กในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่พบว่า ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) และมลพิษทางอากาศ PM2.5 ใน เชียงใหม่ โดยเว็บไซต์ https://www.iqair.com/ระบุว่า วันนี้เมื่อเวลา 08.00 น. ค่า AQI อยู่ที่ 217 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง ส่วนปริมาณ ฝุ่น PM2.5 มีค่า 166.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่าความเข้มข้นของ PM2.5 ในเชียงใหม่ขณะนี้ สูงถึง 33.3 เท่าของค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลก ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบรายอำเภอ พบว่าค่า AQI สูงสุดที่ อ.แม่ออน อยู่ที่ 225 อ.เมือง 216 อ.สันทราย 195 อ.ดอยสะเก็ด 187 ขณะที่ เว็บไซต์ https://www.cmuccdc.org/hourly รายงานคุณภาพอากาศ เชียงใหม่ พบค่าฝุ่นสูงสุด ที่บ้านแม่นะ อ.เชียงดาว 497 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว 462 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายนอกบ้าน ปิดหน้าต่างเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศภายนอกบ้าน และให้สวมหน้ากากขณะอยู่ภายนอกอาคาร สำหรับเด็ก ผู้สูงวัย และผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ทันที.