เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรค รทสช.ได้รับสัญญาณหรือไม่ ว่า โดยปกติการจะปรับ ครม. จะกระทบเฉพาะพรรคแกนนำรัฐบาล ตนคิดว่าเป็นเรื่องภายในพรรค ซึ่งดูจากกระแสแล้วภายในพรรคเพื่อไทย มีความจำเป็นต้องปรับ ครม. เพราะมีบุคคลที่เหมาะสมและตกค้างขบวนหลายคน แต่การจะปรับกระทบไปถึงพรรคอื่น สิ่งที่ต้องทำคือตัวนายกรัฐมนตรีเองจะต้องมีการหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนที่มีความประสงค์จะปรับ ครม. ตนได้คุยกับหัวหน้าพรรค รทสช. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านบอกยังไม่มีสัญญาณอะไรมาถึง ฉะนั้นขอให้ทุกคนในพรรคอยู่นิ่งๆ เพราะยังไม่มีเรื่องของการปรับ ครม. แน่นอน หากจะมีคนที่รู้คนแรกคือหัวหน้าพรรค

เมื่อถามว่าหากจะมีการปรับ ครม.จริงในส่วนของพรรค รทสช.จะมีการสลับสับเปลี่ยนหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงในเรื่องนี้ เพราะคิดว่ายังไม่มีการปรับกระทบมาถึงพรรค รทสช.

เมื่อถามต่อว่าตอนตั้ง ครม. ครั้งแรกมีเงื่อนไขหรือข้อตกลงว่าจะเป็นรัฐมนตรีกันกี่เดือน นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องเงื่อนเวลา ไม่ได้มีการพูด แต่บอกทุกคนว่าทุกอย่างมีการปรับเปลี่ยนได้ แต่เรื่องเวลาไม่เคยมีการกะเกณฑ์ไว้ว่า 3 เดือนหรือ 6 เดือนต้องเปลี่ยน ส่วนคนของพรรคประชาธิปัตย์จะมาอยู่พรรค รทสช. เพิ่มหรือไม่นั้น อันนี้ไม่แน่ เพราะมันอีกยาว คิดว่าการเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นจริงก็ตอนใกล้ๆ ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในยุบสภา ซึ่งบรรยากาศทางการเมืองในวันนี้ มีการพูดถึงเรื่องการปรับ ครม. แต่ยังไม่พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนนายกฯ แต่ถ้าคิดถึงการเปลี่ยนนายกฯ เมื่อไหร่ก็จะมาคู่กับการยุบสภา เพราะอำนาจนายกฯ ยุบสภาได้

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการส่งสัญญาณปรับ ครม. พรรค รทสช.จะปรับในส่วนของพรรคหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ต้องมีการหารือกัน ซึ่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความเป็นประชาธิปไตยสูง ฉะนั้นท่านต้องหารือ หากจะมาชี้ว่าจะเอาคนโน้นคนนี้ออกก็ต้องมีคำอธิบาย  ซึ่งคนที่ทำงานโดดเด่นอย่างหัวหน้าพรรคอาจจะไปเตะโดนหม้อข้าวหม้อแกงใครบ้างในเรื่องพลังงาน หากจะเอาท่านออกประชาชนคงรับไม่ได้.