เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง สวมเสื้อลายไก่ชนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นเสื้อซอฟต์พาวเวอร์ประจำจังหวัดพิษณุโลก เดินทางถึงสถานีรถไฟหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวงคมนาคม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โดยนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาใช้บริการสถานีรถไฟหัวหิน พร้อมถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง และช่วงหนึ่งนายกฯ ได้สอบถามผู้ใช้บริการรถไฟคนไทยว่า การให้บริการดีขึ้นหรือไม่ สาธารณูปโภค เช่น ห้องน้ำสะอาดหรือไม่ ซึ่งนักท่องเที่ยว ระบุว่า ห้องน้ำสะอาด การบริการดี แต่แปลกใจว่าค่าโดยสารจาก อ.หัวหิน ไปกรุงเทพมหานคร ยังมีราคาถูกเพียง 44 บาท อยากให้เพิ่มราคาค่าโดยสาร เพื่อนำมาปรับปรุงการบริการ โดยนายกฯ ได้หันไปถามนายสุริยะ ถึงเรื่องระยะเวลาการเดินทางจากหัวหินไปกรุงเทพมหานคร ซึ่งนายสุริยะ รายงานว่า ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ใช้บริการชาวไทยระบุว่า การเดินทางที่ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงเป็นของชั้นประหยัด นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ทักทายเด็กชายชาวต่างชาติ ที่สวมเสื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี พร้อมกล่าวชมว่า เดอะ เบสต์ ทีม

ต่อมานายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสถานีรถไฟหัวหินครั้งนี้ว่า จากการปรับปรุงสถานีรถไฟแห่งนี้พบว่าดีขึ้น โดยแยกเป็น 2 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์คือเรื่องสถานที่ ที่เปิดใหม่ดูโล่งและกว้างขวาง แต่ยังขาดความร่มรื่น พื้นที่สีเขียว จึงบอกนายสถานีว่าให้เติมต้นไม้สีเขียว เพื่อให้ดูนิ่มนวลลงบ้าง ขณะที่เรื่องของซอฟต์แวร์คือเรื่องเวลาการเดินทางของรถโดยสาร ซึ่งไม่ได้มีการจัดฉากไว้ เพราะตนเดินมาถามผู้โดยสาร ซึ่งฝรั่งคนหนึ่งระบุว่า ไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟของไทยมา 30 ปีแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กลับมาเดินทางด้วยรถไฟ ขณะที่ผู้โดยสารชาวไทยระบุว่าเมื่อมีรถไฟรางคู่ มีการเข้าเทียบชานชาลาตรงเวลา ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมหานครมาหัวหินเพียง 3 ชั่วโมงกว่า และค่าโดยสารจากหัวหินไปกรุงเทพมหานคร เพียง 40 กว่าบาทถือว่าราคาถูก เป็นตั๋วราคาชั้นประหยัดที่ถือว่าเหมาะสมแล้ว ประชาชนเข้าถึงได้ ซึ่งโดยรวมทั้งหมดถือว่าดี และคิดว่าผู้โดยสารน่าจะพอใจ อย่างไรก็ตาม การรองรับผู้โดยสารทางรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถือว่าเพียงพอ และคิดว่าคนน่าจะใช้บริการเพิ่มมากขึ้นจากการปรับปรุงสถานที่และลดระยะเวลาการเดินทาง ไม่เหมือนกับทางถนนที่การจราจรหนาแน่น

เมื่อถามว่า มีแนวคิดที่จะปรับปรุงสถานีรถไฟแห่งอื่น ในลักษณะเดียวกับสถานีรถไฟหัวหินหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการพัฒนาคมนาคมระหว่างเมือง โดยเฉพาะไปที่เมืองรองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องดูว่ามีการพัฒนาไปบ้างหรือยัง ต้องมีความพร้อมเรื่องของเวลาในการเดินทางที่ตรงเวลา 

‘เศรษฐา’ตรวจสถานีรถไฟหัวหิน ประชาชนขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

เมื่อถามถึงภาพรวมการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งประเทศ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า เมื่อคืนตนได้พูดคุยและทานข้าวร่วมกับ รมว.คมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคม ทราบว่าการเดินทางเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังเป็นแค่วอร์มอัพ แต่วันจริงคือวันที่ 12 เม.ย.แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเรามีสายด่วน และมีคนส่งวิดีโอให้ดูตลอดเวลา หากใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมหานครมาหัวหิน ต่ำกว่า 4 ชั่วโมงถือว่าดี แต่ในช่วงเดินทางกลับน่าจะมีปัญหา รถอาจจะหนาแน่นนิดหน่อย เพราะยังมีบางช่วงที่ไม่สามารถคืนพื้นผิวจราจรได้

จากนั้นนายกฯ ได้ขึ้นไปยังชานชาลาชั้น 2 เพื่อตรวจดูขบวนไฟ ซึ่งเป็นรถไฟดีเซลรางนั่งปรับอากาศชั้นที่ 2 จากสุราษฎร์ธานีถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่เข้าเทียบชานชาลาในเวลา 14.30 น. โดยเมื่อขบวนเทียบชานชาลา นายกฯ ได้โบกมือทักทาย พร้อมเข้าไปทักทายผู้โดยสารที่ออกมาจากขบวนด้วย ขณะที่ประชาชนได้โบกมือทักทายนายกฯ เช่นกัน  โดยก่อนเดินทางกลับ นายกฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกับป้ายสถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คชื่อดังของ อ.หัวหิน.