สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ว่า รายงานฉบับใหม่ของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ) ระบุว่า การใช้จ่ายทางทหารเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป, ตะวันออกกลาง และเอเชีย

“การใช้จ่ายทางทหารโดยรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552 ที่พวกเราเห็นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในทั้งห้าภูมิภาค” นายหนาน เทียน นักวิจัยอาวุโสของเอสไอพีอาร์ไอ กล่าว

ตามข้อมูลของรายงาน การใช้จ่ายทางทหารเพิ่มขึ้น 6.8% ในปีที่แล้ว และถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเทียน กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมถอยของสันติภาพ และความมั่นคงทั่วโลก และไม่มีภูมิภาคใดบนโลกที่มีสถานการณ์ดีขึ้นเลย

ทั้งนี้ ประเทศที่มีการใช้จ่ายทางทหารสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สหรัฐ, จีน, รัสเซีย, อินเดีย และซาอุดีอาระเบีย

อนึ่ง สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน ส่งผลให้การใช้จ่ายของยูเครน, รัสเซีย และหลายประเทศในยุโรป ต่างเพิ่มขึ้น ส่วนการใช้จ่ายทางทหารในตะวันออกกลาง ก็สูงขึ้นเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนหลักจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ขณะที่การใช้จ่ายในทวีปเอเชีย เพิ่มขึ้นจากการเสริมความแข็งแกร่งกองทัพของประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น จีน, ญี่ปุ่น และ อินเดีย

เนื่องจากสงครามในยูเครน “ยังไม่มีวี่แววยุติ” เช่นเดียวกับสถานการณ์ปัจจุบันในตะวันออกกลาง และความตึงเครียดที่สูงขึ้นในเอเชีย เทียนจึงเชื่อว่า ประเทศต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะส่งเสริมกองทัพของตนเองต่อไป และคาดว่าแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี.

เครดิตภาพ : AFP