ด.ต.ธนัท วรานนท์วนิช ผบ.หมู่ ป.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ขนมตาล ทุกคนรู้จักกันดี เพราะมีขายทั่วทุกมุมของประเทศ ทุกภาค ทุกจังหวัด ขนมหวานที่คนนิยมซื้อไปเป็นของฝากกลับบ้าน ดังนั้นขนมตาล จึงเป็นพระเอกครองใจนักท่องเที่ยวมานานแสนนานแล้ว ขนมตาล ซึ่งเป็นขนมไทยดั้งเดิม มีเนื้อเป็นแป้งสีเหลืองเข้ม อีกทั้งยังมีความนุ่มฟู และมีกลิ่นตาลหอมหวาน ปัจจุบันหาทานรสชาติดีๆ ได้ยาก เพราะปริมาณการปลูกต้นตาลลดลง ปัจจุบันมีการดัดแปลง เพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความหลากหลายความอร่อย ซึ่งขนมตาลที่ขายตามท้องตลาด มักใส่เนื้อตาลน้อยๆ และเพิ่มแป้ง เจือสีเหลืองเข้าไปแทน ทำให้ขนมตาล มีเนื้อกระด้าง ไม่หอมอร่อย

วันนี้ ด.ต.ธนัท วรานนท์วนิช ผบ.หมู่ ป.สภ.สองพี่น้อง เจ้าของแบรนด์ “ขนมตาลไท ดาบนัท” มีสูตรการทำขนมตาลโบราณ รสชาติอร่อย ตัวแป้งนิ่มขึ้นฟู และหอมเนื้อตาลที่ไม่เหมือนใคร แต่สร้างรายได้อย่างน่าทึ่ง เล่าที่ให้ฟังว่า อาชีพส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านในอำเภอสองพี่น้อง ที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนมาถึงรุ่นพ่อแม่ คือ การเป็นเกษตรกรเลี้ยงกุ้ง และด้วยความที่ครอบครัวชอบกินขนม ทั้งคุณยายคุณแม่ จึงทำขนมไทยเป็นแทบทุกชนิด จึงทำให้ได้รับอิทธิพลการทำมาตั้งแต่เด็กๆ และรับทำขนมไทยเป็นอาชีพเสริม หน่วยงาน และห้างร้านต่างๆ จะสั่งขนมไปใช้ในงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ และงานประชุมสัมมนา ได้แก่ ขนมตาล สูตรโบราณที่มีรสชาติกลมกล่อมอร่อย หอมกลิ่นตาล เนื้อนิ่มนุ่มฟู ขายดีมาตลอด

ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำ ต้องมีเตาแก๊สสำหรับนึ่งขนม ลังถึงขนาดใหญ่ เครื่องปั่น ตะกร้อมือ หม้อนึ่ง หรือซึ้งนึ่งอาหาร ถาด กะละมัง กระบวย ทัพพี ถ้วยตะไล ไม้พาย เป็นต้น ในส่วนของวัตถุดิบ และส่วนผสมในการทำขนมตาลตามสูตรโบราณ มี แป้งข้าวเจ้า 1 กก. แป้งมันสำปะหลัง 2 ขีด น้ำกะทิ 1 กก หางกะทิ 3-4 ขีด น้ำตาลทราย 8 ขีด เนื้อตาลยีที่ทับน้ำจนแห้งสนิท 6 ขีด ยีสต์แห้ง 2 ช้อนชา หากใช้เนื้อตาลใหม่ๆ ไม่ต้องใส่ก็ได้ ถ้าเป็นตาลเก่าควรจะใส่ให้ไปเรียกเชื้อในเนื้อตาล เกลือป่น และมะพร้าวขูดเป็นเส้น ขั้นตอนการทำเริ่มจากนำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน ยีสต์ เกลือ ผสมรวมกัน แล้วใส่หัวกะทิทีละน้อย นวดไปจนเข้ากัน หรือจนกะทิหมด ส่วนเคล็ดลับการทำขนมตาล คือ ยิ่งนวดนานยิ่งนิ่ม นวดจนแป้งเป็นมัน ร่อนจากภาชนะ แสดงว่าแป้งใช้ได้ ให้พักทิ้งไว้ 20 นาที แล้วจึงเอาเนื้อตาลมาผสม นวดไป จนส่วนผสมแป้งกับเนื้อตาลเข้ากันดี เนื้อแป้งจะเริ่มมีความเหลว จากนั้นให้ใส่น้ำตาล นวดต่อไปจนน้ำตาลละลายหมด จัดการคลุมด้วยพลาสติกอย่างมิดชิด พักแป้งทิ้งไว้ 5-6 ชั่วโมง รอแป้งขึ้นตัว ในขั้นตอนนี้ ห้ามไม่ให้เคลื่อนย้าย ไม่ให้เขย่า ไม่ให้คน เพราะแป้งหมักที่ได้จะมีฟองอากาศจากการทำงานของยีสต์ และมีความหอมจากการหมัก

ต่อมาเมื่อแป้งขึ้นตัวดีแล้ว ให้นำผงฟูมาละลายกับหางกะทิประมาณ 400 กรัม ให้ขึ้นฟอง แล้วเทลงไปในส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สัก 10 นาที เตรียมนำหม้อนึ่ง หรือซึ้งนึ่งอาหาร ใส่น้ำตั้งไฟให้น้ำเดือด นำถ้วยตะไลเรียงให้ระยะห่างพอดี อย่าให้เบียด เสร็จแล้วยกขึ้นนึ่งสัก 10 นาที พอถ้วยร้อนยกลง ตักแป้งใส่กระบวยหยอดใส่ถ้วยตะไลเกือบเต็ม นำขึ้นนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 5 นาที แล้วลดไฟลง นึ่งต่ออีก 10 นาที ขนมจะสุกพอดี ยกลง ตั้งไว้ให้ขนมคลายความร้อนสักครู่ เพื่อสะดวกต่อการแคะ นำมะพร้าวขูดเส้นไปนึ่ง 5 นาที ยกลงตั้งไว้ให้เย็น เพื่อไม่ให้มะพร้าวเสียง่าย โรยด้วยเกลือป่นเล็กน้อย พอมีรสชาติ นำมะพร้าวขูดเส้นไปโรยหน้า เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

สำหรับราคาขาย “ขนมตาลไท ดาบนัท” จัดขายเป็นกล่อง กล่องหนึ่งมี 6 ชิ้น ราคา 30 บาท สนใจขนมตาล สูตรโบราณที่ทำจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ทั้งขนมตาล และแป้งผสมสำเร็จรูปขนมตาล ยี่ห้อ “ตาลไท ดาบนัท” ให้กับผู้ว่างงานที่สนใจ ลองหันนำไปทำขนมตาลทานกันเองที่บ้าน หรือทำขายกัน ทำง่ายๆ ทำสบายๆ กำไรเต็มร้อย เป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมได้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญราคาย่อมเยาไม่แพง ต้องการสั่งขนมตาลไปใช้ในงานบุญ หรืองานสัมมนาต่างๆ ติดต่อ “ขนมตาลไท ดาบนัท” ด.ต.ธนัท วรานนท์วนิช ผบ.หมู่ ป.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 08-1795-2541.