สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่าเทศบาลกรุงโซลประกาศมอบเงินอุดหนุนให้กับคู่รักที่ยังไม่มีบ้านและมีเด็กทารกแรกเกิด ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป เพื่อลดจำนวนคู่รักซึ่งไม่ยอมมีบุตร เนื่องจากที่อยู่อาศัยมีราคาสูง และสนับสนุนให้คู่แต่งงานใหม่ที่มีเด็กทารก อาศัยอยู่ในเมืองหลวงต่อไป

ทางการกรุงโซลจะสนับสนุนเงิน 300,000 วอน (ราว 8,038 บาท) ต่อทารก 1 คน ต่อเดือน เป็นเวลาสูงสุด 2 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ คู่สมรสจะได้รับเงินอุดหนุนสูงสุด 7.2 ล้านวอน (ราว 192,916 บาท) ต่อทารกแรกเกิด 1 คน

มากไปกว่านั้น โครงการนี้ยังครอบคลุมไปถึงคู่รักต่างสัญชาติ ที่ผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งมีสัญชาติเกาหลี

แม้จะไม่มีการกำหนดมาตรฐานรายได้สำหรับครอบครัวซึ่งมีสิทธิรับเงินอุดหนุน แต่มีข้อแม้ว่า พวกเขาต้องอาศัยอยู่ในกรุงโซล และมีค่าเช่าต่อเดือนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2.68 ล้านวอน (ราว 71,807 บาท)

ขณะที่คู่รักที่เช่าบ้านผ่าน “จอนเซ” หรือระบบการเช่าบ้าน ที่ผู้เช่าจ่ายเงินมัดจำเป็นจำนวนมากให้เจ้าของบ้านแทนค่าเช่ารายเดือน จะต้องจ่ายเงินมัดจำน้อยกว่าหรือเท่ากับ 700 ล้านวอน (ราว 18,754,309 บาท)

อย่างไรก็ตาม คู่รักที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าสาธารณะ อาทิ บ้านในโครงการเคหะชุมชนกรุงโซล และโครงการที่ดินการเคหะเกาหลี จะไม่สามารถขอรับเงินอุดหนุนได้

ทั้งนี้ เมื่อได้รับการคัดเลือก คู่สมรสจะต้องไม่ครอบครองบ้านในขณะที่ได้รับเงินอุดหนุน นอกจากนี้ พวกเขาจะไม่ได้รับเงินจากเทศบาลกรุงโซล หากพวกเขาย้ายออกนอกเมืองหลวง หรือซื้อบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว

โครงการเงินอุดหนุนค่าที่อยู่อาศัยจะเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 หลังผ่านการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ และผ่านการแก้ไขข้อบัญญัติ

เทศบาลกรุงโซลคาดการณ์ว่า จะสามารถมอบเงินอุดหนุนให้กับครอบครัวประมาณ 10,000 ครัวเรือน ในแต่ละปี

นายโอ เซ-ฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซล กล่าวถึงโครงการนี้ว่า “คู่รักที่มีลูกและไม่มีบ้านต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาอยู่ในจุดบอดและไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของนโยบาย”

“เทศบาลกรุงโซลหวังว่าโครงการใหม่นี้ จะช่วยให้คู่รักที่กำลังลังเลในการมีบุตรเนื่องจากปัญหาค่าที่อยู่อาศัย สามารถรับการสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัยได้เมื่อมีลูกในปีหน้า โดยภาครัฐจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราการเกิดต่ำ” เขาระบุเพิ่มเติม

ข้อมูลจากเทศบาลกรุงโซลเปิดเผยว่า เมื่อปี 2566 ประชาชน 325,317 คน ย้ายออกจากกรุงโซลไปยังภูมิภาคใกล้เคียง เช่น จังหวัดคย็องกีและเมืองอินชอน โดยร้อยละ 61.3 หรือ 199,527 คน ให้เหตุผลว่า “ครอบครัวและที่อยู่อาศัย”เป็นแรงจูงใจหลักในการย้ายออกจากเมืองหลวง

มากไปกว่านั้น จากสถิติทั่วเกาหลีใต้ อัตราการเจริญพันธุ์โดยรวมของโซลแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับบรรดาเมืองและจังหวัดอื่น ๆ ทั้งหมดในประเทศ เมื่อปี 2566 ในอัตราร้อยละ 0.55 หรือ 394,000 คน ลดลงกว่าร้อยละ 7.6 หรือ 32,000 คน เมื่อเทียบกับปี 2565.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES