เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ยืนยันว่าข้าวที่เก็บในโกดัง 10 ปี ยังสามารถกินได้ ว่า เรื่องนี้คงไม่มีใครขัดข้องถ้าข้าวที่เก็บไว้ในโกดังยังมีคุณภาพดี สามารถบริโภคได้ หุงได้ กินได้ แต่ดูจากข้อเท็จจริงแล้วเจ้าหน้าที่นำข้าวสารไปเตรียมการก่อนหุงข้าว การซาว 13-15 น้ำนั้น น้ำซาวข้าวมีมอดลอยจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าข้าวไม่ได้คุณภาพอย่างแท้จริง นายภูมิธรรมควรเอาข้าวในโกดังดังกล่าวไปหุงให้รัฐมนตรีกินกันทั้งคณะในทุกวันอังคารที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ต้องแนะนำแม่บ้านที่หุงข้าวไม่อยากให้ซาวน้ำหลายครั้ง เพราะถ้าซาวน้ำมากกว่า 3 ครั้ง อาจทำให้สูญเสียสารอาหารและกลิ่นหอมในข้าวได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและประหยัดค่าใช้จ่ายได้

นายราเมศ กล่าวอีกว่า กระบวนการตรวจคุณภาพของข้าวว่ามีคุณภาพสามารถบริโภคได้หรือไม่ มีกระบวนการหลักการอยู่ มีหลายหน่วยงานที่สามารถเข้ามาช่วยกันได้เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบริโภคได้แน่เพราะถ้าหากข้าวที่ไม่มีคุณภาพหลุดออกไป ประชาชนผู้บริโภคคือผู้รับกรรม การตักข้าวใส่ปากกินโชว์ของรองนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่มาตรฐานการตรวจวัดคุณภาพข้าว และภาพมันฟ้องว่าแม้แต่ตัวรองนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่มีความกล้าเต็มร้อย เพราะเน้นกับไม่เน้นข้าว มีคนฝากถามช้อนซื้อที่ไหนตักติดแต่กับไม่ค่อยติดข้าว และอีกอย่างที่รองนายกรัฐมนตรีประสงค์จะสื่อสารคือโครงการรับจำนำข้าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งการมากินข้าวโชว์ก็เช่นกันที่ไม่สามารถมาลบล้างเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีทุจริตรับจำนำข้าวได้แม้แต่บรรทัดเดียว