นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยแนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย และประชาชน หลัง รมว.คลัง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยบริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ว่า ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหายและยื่นเรียกร้องความเสียหายแล้ว ให้ยื่นขอรับชำระหนี้จากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนฯ จะเข้ารับช่วงจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามที่ได้อนุมัติค่าสินไหมทดแทนไว้ รวมถึงกรณียังไม่ได้ยื่นเรียกร้องความเสียหายให้ยื่นได้ที่กองทุนประกันฯ เช่นกัน 

ทั้งนี้ กรณีผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโควิดที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ สามารถนำเบี้ยประกันภัยไปซื้อความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโควิดจากบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะให้ความคุ้มครองเฉพาะภาวะโคม่าในวงเงินความคุ้มครอง 300,000 บาท เบี้ยประกันภัย 300 บาท หรือนำเบี้ยประกันภัยไปซื้อความคุ้มครองกับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ 13 แห่ง โดยจะได้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยเพิ่มอีก 10% ของกรมธรรม์ใหม่ แต่ไม่เกิน 500 บาท

นายสุทธิพลกล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ กองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีจะมีจดหมายลงทะเบียนและผ่านแอพพลิเคชั่น ไปยังเจ้าหน้าทุกรายภายใน 30 วัน หลังจากนั้นเจ้าหนี้ต้องยื่นขอชำระหนี้จากกองทุนฯ ภายใน 60 วัน โดยเจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ส่วนที่ขาดจากกองทุนฯ ตามจริง แต่รวมกันทุกสัญญาแล้วไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย

“ปัญหาของเอเชียประกันภัย เป็นปัญหาภายในของบริษัท จึงไม่เกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของบริษัทประกันรายอื่น หรือในภาพรวม แต่ คปภ.ก็ได้ร่วมมือกับบริษัทประกันวินาศภัยอื่น 13 แห่ง หรือกองทุนประกันวินาศภัยในการช่วยเหลือแล้ว ก็จะมีการรับโอนกรมธรรม์ที่ยังไม่หมดอายุ หรือรับเคลม รวมถึงการคืนเบี้ยให้กรมธรรม์ที่ยังไม่หมดอายุ”

สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่น กรณีเป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย (ต้นฉบับพร้อมสำเนาเอกสาร จำนวน 2 ชุด) ได้แก่ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบเคลม/ใบนัดชำระหนี้หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) ส่วนกรณีเป็นเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย (ต้นฉบับพร้อมสำเนาเอกสาร จำนวน 1 ชุด) ได้แก่ เอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ บัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) อย่างไรก็ตามกรณีไม่สามารถมายื่นได้ด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ