เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศจร.ตร. มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวการจราจรให้กับประชาชนรับเปิดเทอมในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.)

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษาในสังกัด ทำการเปิดภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2564 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ กทม. จะมี 63 โรงเรียนนำร่องที่ได้รับอนุญาตจากกรมอนามัย ให้เปิดการเรียนการสอนในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับพี่น้องประชาชนและเด็กนักเรียน โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียน ซึ่งอาจมีผู้ปกครองจอดรถรับ-ส่งนักเรียน ทำให้เกิดการจราจรติดขัดได้

ท้ังนี้ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติในสายงานจราจร Standard Operation Procedures (SOP) ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ในสถานการณ์โควิด-19 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังให้ตำรวจทุกพื้นที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์เส้นทางหลีกเลี่ยงในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงการรณรงค์ให้ผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา ปฏิบัติตามกฎจราจร เช่น การสวมหมวกนิรภัย การรัดเข็มขัดนิรภัย พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎจราจรทั้งภายในและโดยรอบพื้นที่โรงเรียนและสถาบันการศึกษาอย่างเคร่งครัด

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใย เรื่องการจราจรติดขัด และมาตรการทางสาธารสุข ตนได้มอบหมาย พล.ต.ท.ปรีชา ลงมาควบคุม กำกับ และดูแลการปฏิบัติ โดยใช้ศูนย์ควบคุมสั่งการ บก. 02 สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรกรณ์ เครื่องมือ ในการช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีโรงเรียนทั้งสิ้น 63 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนขนาดเล็ก ที่จะเปิดภาคเรียนในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ และโรงเรียนในโซนใจกลางเมือง หรืออยู่ในพื้นที่การจราจรหนาแน่น เช่น ถนนสามเสน, ถนนสาทร, สีลม, สุรศักดิ์, เพชรบุรี, อโศกมนตรี และสุขุมวิท ยังไม่เปิดภาคเรียน เนื่องจากยังไม่มีความพร้อมบางประการ เช่น การฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนยังไม่ครบถ้วนเป็นต้น จึงยังไม่กังวลว่า การจราจรในกรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้จะติดขัด เพราะไม่ได้เปิดภาคเรียนเต็มรูปแบบทุกโรงเรียนพร้อมกันหมด

โฆษก บช.น.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของพื้นที่ที่โรงเรียนเปิดนั้น ได้เตรียมการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนในอนาคตจะมีโรงเรียนเปิดภาคเรียนเพิ่มเติม ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนที่จะพิจารณาความพร้อมเอง ซึ่งตำรวจนครบาลก็ได้เตรียมแผนไว้รองรับแล้ว.