นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564-2570 และ 13 มาตรการหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วยการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วย BCG โดยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในยุคหลังโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในที่ประชุมว่า รัฐบาลมีความตั้งใจทำ BCG Model เพื่อประเทศไทย ทั้งในด้านประโยชน์ระดับประเทศ ระดับประชาชน เกษตรกร ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ขณะนี้งาน BCG หลายอย่างมีความก้าวหน้า หลายอย่างอยู่ในระยะเริ่มต้น หลายอย่างก็กำลังเดินหน้าสู่ระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ซึ่งการที่รัฐบาลนำเรื่อง BCG ขึ้นมาขับเคลื่อนเพราะหลายเรื่องเป็นวาระของโลก เช่น การลดเรื่องโลกร้อน พลังงานสะอาด ขยะ Recycle รวมทั้งรัฐบาลต้องการเพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ให้ได้ ซึ่งการทำงานในเรื่องนี้ต้องทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนแต่ละกลุ่มที่จะต้องร่วมมือกันในแต่ละสาขา โดยต้องคิดให้ครอบคลุม

ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังแนะว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาในเรื่องการจัดหาเมล็ดพันธุ์ให้กับประชาชนในประเทศ เพราะเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ผลิตโดยกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และศูนย์ข้าวชุมชน ยังผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร เกษตรกรต้องไปซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวราคาแพง จึงขอให้ช่วยกันคิดหาแนวทางในการเพิ่มการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้เพียงพอ ขณะที่ในเรื่องการเพิ่มผลผลิตของไม้ผล ต้องคำนึงถึงเรื่องอุปสงค์อุปทานให้สอดคล้องกับตลาด ป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด และให้หาแนวทางนำเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์มาใช้ทำให้ผลไม้มีผลผลิตนอกฤดูกาล

นอกจากนี้ ในเรื่องฉลากสิ่งแวดล้อมได้ขอให้ขยายไปยังภาคเอกชนร่วมมือใช้ฉลากสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของสินค้า และให้ประชาชนได้เข้าใจว่ารัฐบาลมีความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภคทั้งหมด ซึ่งในงานต่าง ๆ ของ BCG นั้น ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันวางแผน แบ่งมอบบทบาทหน้าที่เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ การเดินหน้าแผนงานในเรื่อง BCG  เป็นเรื่องที่คิดดี ทำดี ที่ต้องทำให้จบตามระยะเวลา มีคำตอบให้กับประชาชน ทำให้ประชาชน ภาคเกษตรกร มีรายได้ที่สูงขึ้น และทำให้ Value chain ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องได้มีการพัฒนาและได้รับประโยชน์สูงสุด โดยนายกฯ หวังว่าคณะกรรมการทุกคนจะช่วยกันขับเคลื่อน BCG Model ที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติให้สำเร็จได้