เมื่อวันที่ 30 พ.ย. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ หมอธีระ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ประจำวันที่
30 พฤศจิกายน 2564

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 422,320 คน ตายเพิ่ม 5,192 คน รวมแล้วติดไปรวม 262,301,030 คน เสียชีวิตรวม 5,223,239 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี รัสเซีย และฮังการี
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 95.64 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 92.5
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึงร้อยละ 65.13 ของทั้งโลก พอๆ กับจำนวนเสียชีวิตเพิ่มที่คิดเป็นร้อยละ 67.06
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
…สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 4,753 คน สูงเป็นอันดับ 19 ของโลก
หากรวม ATK อีก 1,607 คน จะขยับเป็นอันดับ 16 ของโลก
ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากตุรกีและเวียดนาม
…เปรียบเทียบสถานการณ์ไทยกับเพื่อนบ้าน
ดูข้อมูลของ Ourworldindata
ลองดูจำนวนติดเชื้อใหม่และจำนวนเสียชีวิตในแต่ละวันที่รายงานเป็นทางการของไทยเทียบกับญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยติดเชื้อสูงสุดพอๆ กับเรา รวมถึงอินโดนีเซียซึ่งเคยติดเชื้อต่อวันมากกว่าเราสองเท่าคือราว 5 หมื่นคนต่อวัน ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
พบว่าญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ติดเชื้อใหม่แต่ละวันน้อยกว่าเรามาก ตั้งแต่หลักสิบไปถึงหลักร้อย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตแต่ละวันตอนนี้ฟิลิปปินส์สูงสุดคือเกือบสองร้อยต่อวัน ไทยหลายสิบต่อวัน ส่วนญี่ปุ่นและอินโดนีเซียเป็นหลักหน่วยถึงหลักสิบ
แต่ที่ดูไม่ดีนักคือ อัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อจากการส่งตรวจ (positivity rate) ไทยยังสูงมาก มากกว่าฟิลิปปินส์ราว 3 เท่า และมากกว่าญี่ปุ่นและอินโดนีเซียหลายสิบเท่า
ถึงแม้จะลองดู positivity rate ที่ทางการรายงานจากเว็บของกรมควบคุมโรคที่อยู่ราว 9% ก็ยังสูงกว่าเช่นกัน
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดเป็นกิจวัตรจึงสำคัญมาก
ใส่หน้ากากนะครับ และเว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร
ด้วยรักและห่วงใย