การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. นำคณะผู้บริหาร รฟท. ออกเดินทางโดยรถไฟ เพื่อสำรวจการดำเนินงานในเส้นทางรถไฟสายเหนือ กรุงเทพ-นครลำปาง พร้อมกันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสถานีรถไฟช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ช่องแค เนื่องจากสภาพความเจริญของเมืองได้เปลี่ยนไปจากในอดีตที่บริเวณนี้เคยเจริญกว่าชุมชนใกล้เคียง จึงทำให้อัตราค่าเช่าถูกคิดบนพื้นฐานของความเจริญในสมัยนั้น แต่ในปัจจุบันความเจริญของเมืองได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ โดยสถานีรถไฟช่องแค มีอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่โดยรอบสถานีรถไฟ เป็นอาคารไม้สองชั้นปลูกสร้างและอยู่อาศัยกันมาเป็นระยะเวลานาน

นอกจากนี้ผู้ว่า รฟท. ยังได้ร่วมประชุม และตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เด่นชัย-เชียงของ และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม โดยการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่นั้น มุ่งหวังที่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของประเทศด้วยการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้เป็นโครงข่ายหลักในการขนส่ง สอดคล้องตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการค้าการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนการโดยสารและขนส่งสินค้า ตลอดจนเป็นการช่วยประหยัดการใช้พลังงานของประเทศในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ผู้ว่า รฟท. และคณะผู้บริหาร รฟท. ยังได้ร่วมหารือกับนายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดลำปาง ในการส่งเสริม และพัฒนาพื้นที่ของ รฟท. บริเวณสะพานดำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดลำปาง โดย รฟท. ได้ดำเนินการบูรณะสะพานดำ สะพานรถไฟสายประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ประจำจังหวัด ซึ่ง รฟท. ได้บูรณะสะพานดำและพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเรียบร้อยแล้วสำหรับแผนงานในระยะที่ 1 และเตรียมดำเนินการแผนงานระยะที่ 2 โดยจะพัฒนาพื้นที่เพื่อให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ของ รฟท. และเป็นพื้นที่สำหรับสันทนาการสำหรับชาวลำปาง รวมถึงนักท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นแหล่งศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชนและสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความเข้มแข็ง และยั่งยืน เป็นการตอกย้ำว่า รฟท.อยู่คู่ชุมชน และประชาชนตลอดไป