นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ว่า คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้เม็ดเงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจ 3-5 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่คาดการใช้จ่ายในข่วงเทศกาลปีใหม่อยู่ที่ 1.2-1.4 แสนล้านบาท ล่าสุดผลสำรวจออกมาพบว่าการใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่อยู่ที่ 8.57 หมื่นล้านบาท ติดลบ 6.2% ซึ่งเป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 ที่มีมูลค่าการใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่มูลค่า 8.90 หมื่นล้านบาท ส่วนอัตราขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากการใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่ปี 2564 ที่ติดลบ 33.6%

ทั้งนี้ การใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่ปี 2565 อยู่ที่ 8.57 หมื่นล้านบาท เป็นกรอบที่คำนวนผลกระทบจากการที่ กทม. และจังหวัดต่างๆ ในส่วนภาครัฐยกเบิกการจัดงานเคานท์ดาวน์ปีใหม่และสวดมนต์ข้ามปี รวมทั้งยกเลิก Test & go 15 วัน ไปแล้ว แต่หากภาคเอกชนมีการยกเลิกจัดกิจกรรมเคานท์ดาวน์จะทำให้เม็ดเงินการใช้จ่ายหายไปอีก 1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จึงต้องจับตาว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโอมิครอนได้ภายใน 7 วันหรือไม่ เพราะหากควบคุมได้อัตราการติดเชื้อจะลดลงมาอยู่ที่ 1 พันคนต่อวัน ภายในไตรมาส 1 สถานการณ์จับจ่ายใช้สอยก็น่าจะดีขึ้น แต่ผลสำรวจในปัจจุบันพบคนมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอนมาก เห็นได้จากการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลดต่ำสุดรอบ 16 ปี

ส่วนผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่ามีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวออกนอกพื้นที่ 29, 30 ธ.ค. 2564 เดินทางกลับวันที่ 2 ม.ค. 2565 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางมากสุด ซึ่งการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวปี 2565 เดินทางเที่ยวในประเทศใช้จ่าย 5,445 บาท/คน และเดินทางต่างประเทศใช้จ่าย 2.15 หมื่นบาท/คน และมองว่าภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายช่วงปีใหม่มาก

สำหรับสิ่งที่ต้องการได้ของขวัญจากรัฐบาลมากที่สุด คือ บริหารประเทศอย่างโปร่งใส ปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง ส่วนสิ่งที่น่าห่วงปี 2565 คือภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การเมือง เมื่อถามการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2565 มองว่าโตต่ำกว่า 2.5% และต้องการให้รัฐบาลดูแลค่าครองชีพ รวมทั้งขยายมาตรการคนละครึ่งมากสุด รองลงมาช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน