จากกรณีที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการส่งมอบวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) โดยระบุว่า การจัดส่งวัคซีนจำนวน 61 ล้านโด๊สจะไม่ทันตามกำหนดการเดิมภายในสิ้นปี 2564 และคาดการณ์ว่าแอสตราเซเนกาจะสามารถจัดส่งวัคซีนครบ 61 ล้านโด๊ส ได้ในช่วงเดือน พ.ค. 2565 จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยสัญญาที่ลงนามกับแอสตราเซเนกา เพื่อร่วมกันตรวจสอบ กระทั่งมีรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธาธารณสุข โทรฯ สอบถามข้อเท็จจริงจากนายสาธิต โดยเจ้าตัวยืนยันเป็นผู้ให้สัมภาษณ์จริงและยืนยันต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน ทำให้นายอนุทินไม่พอใจเพราะถือเป็นข้อมูลที่ยังไม่มีการยืนยันจากทางแอสตราเซเนกา และคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง กระทบต่อวาระแห่งชาติในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบ 100 ล้านโด๊สภายในสิ้นปี 2564 นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า ผมยังคงที่จะพูดความจริงให้ประชาชนรับทราบ ผมเคยกล่าวไว้แล้วในการประชุมสภาว่า เราทำแผนฉีดวัคซีนตามศักยภาพในการฉีด ส่งให้ AZ เพื่อให้เขาจัดส่งวัคซีนให้

ทาง AZ ยอมรับโดยไม่ปฏิเสธ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเรา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในการที่จะจัดหาวัคซีนอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างเต็มที่ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป AZ แจ้งว่าไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้เราได้ตาม Timeline ที่เราได้แจ้งไว้ รัฐบาลก็เพิ่มความเข้มข้นในการจัดหาวัคซีน  โดยไม่ได้หวังพึ่ง AZ รายเดียว  ซึ่งเป็นไปตามที่มีผู้ให้คำแนะนำมาโดยตลอดว่าไม่ให้หวังพึ่งวัคซีนจากเพียงรายเดียว และเรากำลังดำเนินการอยู่อย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในการส่งออก และการเปิดเผยสัญญา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องระมัดระวัง ตามที่ผมเคยกล่าวไว้ ครับ

ซึ่งภายหลังจากการที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการได้เข้ามาให้กำลังใจ โดยระบุว่า เปิดเผยความจริงกับประชาชนคือเรื่องถูกต้องที่สุดแล้วครับ ที่เหลือให้ประชาชนตัดสินเอง

โดยนายสาธิต ได้ตอบกลับคนที่เข้ามาแสดงความเห็นต่างๆ ว่า ขอบคุณมากครับ ต่างคนต่างทำหน้าที่ครับ เป้าหมายเพื่อช่วยเหลือคนไข้ ประชาชนคนไทยของเราทุกคนทุกกลุ่มครับ คือเข้าใจว่าหงุดหงิด ไม่ถูกใจนะครับ แต่อย่าถึงกับ ใครพูดอะไรก็ผิดใจไปหมดเลยนะครับ ทุกคนมีสิทธิในการคิด พูด ทำ ในสิ่งที่สร้างสรรค์ ตามบทบาทหน้าที่ครับ

ผมไม่ได้ไม่ชอบท่านนายกรัฐมนตรี และท่านนายกฯ ก็ทำหน้าที่ของท่านเต็มที่ และก็ทราบว่า ในยามนี้ทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ บนพื้นฐานที่ต่างกัน และเป็นหน้าที่หลักในการทำหน้าที่ของฝั่งรัฐบาล แต่ไม่ใช่จะไม่รับฟังเสียงเห็นต่าง หรือวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของรัฐบาล แต่ต้องอธิบาย ให้รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ และเป็นความจริงเท่านั้นจะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ครับ รวมทั้งขอความร่วมมือทุกฝ่ายครับ

ในขณะเดียว การด่า คนเห็นต่าง ที่คิดไม่ตรงกับตัวเอง หรือว่าด่าวิจารณ์ คนทำงานโดย ไม่มีข้อมูลครบถ้วน คือด่าอย่างเดียวไม่ฟังว่าเขาทำอะไรอยู่บ้าง ไม่สร้างสรรค์ และ ไม่ช่วยสถานการณ์ เลยครับ