นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการกวดขันผู้ฝ่าฝืนขับ-จอดรถบนทางเท้าว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีการกวดขันการขับขี่รถบนทางเท้าที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญและเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรทางเท้าต่อเนื่อง ทั้งตั้งจุดตรวจ ซุ่มจับการฝ่าฝืน ขณะที่การดำเนินโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 61-13 ก.พ. 65 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 40,540 ราย, ว่ากล่าวตักเตือน 3,830 ราย, ดำเนินคดี 34,907 ราย, อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,803 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 44,327,300 บาท

อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่กวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนขับรถบนทางเท้า แต่ก็ยังพบการฝ่าฝืนอยู่ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งนอกจากจะมีการฝ่าฝืนขับรถบนทางเท้าแล้ว ยังมีการทำร้ายร่างกายผู้ที่สัญจรบนทางเท้า หรือข่มขู่ด้วยอาวุธ สร้างความไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง ในจุดนี้ยืนยันว่าจะพยายามกวดขันจับกุม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนใช้รถจักรยานยนต์

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ. 2535 ได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปรับได้สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท แต่นโยบายช่วงแรกให้เริ่มต้นปรับ 500 บาท และปัจจุบันเพิ่มเป็นปรับขั้นต่ำ 2,000 บาท ในส่วนนี้หลายคนท้วงติงว่าค่าปรับแพงเกินไป แต่ตนเชื่อว่าหากกวดขันจริงจัง ปรับให้แพงและต่อเนื่อง การกระทำความผิดจะค่อย ๆ ลดลง เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับขี่ได้ ส่วนผู้กระทำผิดทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือคนที่แจ้งเบาะแส หรือทำร้ายคนที่เดินสัญจรบนทางเท้า กำหนดนโยบายให้ปรับสูงสุด 5,000 บาททุกกรณี

สำหรับโครงการรางวัลนำจับผู้ฝ่าฝืนขับ-จอดรถบนทางเท้า ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 ก.ย. 61-ปัจจุบัน รับแจ้งเบาะแสทั้งหมด 171,320 คดี แบ่งเงินส่วนแบ่งค่าปรับให้กับผู้แจ้งเบาะแส จำนวน 3,823 คดี รวมเงินส่วนแบ่งค่าปรับเป็นเงิน 2,700,300 บาท ในส่วนนี้มีการจำหน่ายคดี เนื่องจากหลักฐานไม่ชัดเจน หรือไม่เป็นความผิด จำนวน 79,794 คดี และมีคดีที่ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด 44,690 คดี

ส่วนเขตที่มีการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ฝ่าฝืนขับ จอดรถบนทางเท้า มากสุด 5 สำนักงานเขต ได้แก่

1.เขตบางเขน 11,044 คดี แบ่งส่วนแบ่งค่าปรับแล้ว 912 คดี รวมเป็นเงิน 734,750 บาท จำหน่ายคดี เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นความผิด 2,853 คดี

2.เขตภาษีเจริญ 10,123 คดี แบ่งส่วนแบ่งค่าปรับแล้ว 533 คดี รวมเป็นเงิน 343,750 บาท จำหน่ายคดี เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นความผิด 4,389 คดี

3.เขตสวนหลวง 4,254 คดี แบ่งส่วนแบ่งค่าปรับแล้ว 234 คดี รวมเป็นเงิน 164,000 บาท จำหน่ายคดี เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นความผิด 1,902 คดี

4.เขตดินแดง 3,997 คดี แบ่งส่วนแบ่งค่าปรับแล้ว 376 คดี รวมเป็นเงิน 175,250 บาท จำหน่ายคดี เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นความผิด 2,808 คดี

5.เขตบางซื่อ 3,371 คดี แบ่งส่วนแบ่งค่าปรับแล้ว 113คดี รวมเป็นเงิน 177,000 บาท จำหน่ายคดี เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นความผิด 2,260 คดี.