เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหัวค่ำวานนี้ (21 ก.ค.) ขณะที่ ส.ต.ท.เฉลิมชัย ศิริวังโส พร้อมด้วย ส.ต.อ.ศักดิ์นรินทร์ โฆษร ผบ.หมู่ ป.สน.ห้วยขวาง กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจตราพื้นที่ ได้รับแจ้งเหตุพบชายนอนหายใจรวยรินอยู่บริเวณปากซอยประชาสงเคราะห์ 39 แขวงและเขตดินแดง จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณทางเท้า พบร่างชายอายุ 35-40 ปี นอนหายใจรวยริน ทำได้เพียงกะพริบตา ไม่สามารถพูดจาสื่อสารได้ สภาพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมหน้ากากอนามัย ไม่สวมรองเท้า ข้างกายพบกล่องข้าวและขวดน้ำเปล่า ภายหลังมีรถแท็กซี่และรถฉุกเฉินจากศูนย์วิทยุเอราวัณ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาล แต่ไม่มีโรงพยาบาลใดรับ ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือส่งตัวจาก สน.ห้วยขวาง เพื่อนำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นรถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีส้ม ทะเบียน ทท 9670 กรุงเทพมหานคร ที่มีโชเฟอร์เป็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู นำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป
ด้าน นายเก้าหน้า ขำภักดิ์ อายุ 34 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว และอาสาสมัครร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ขณะนั้นกำลังขับรถแท็กซี่จากแยกห้วยขวางมุ่งหน้าประชาอุทิศ ได้ยินวิทยุของมูลนิธิร่วมกตัญญูขออาสาสมัครตรวจสอบผู้ป่วยยังจุดเกิดเหตุ ตนจึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบผู้ป่วยนอนหายใจเหนื่อยหอบ ไม่สามารถพูดจาตอบคำถามได้ ทราบจากประชาชนที่ขายอาหารแถวนั้นว่า ชายคนดังกล่าวเป็นคนเร่ร่อน โดยไม่ได้มาขอข้าวกิน 3 วัน 3 คืนแล้ว อาศัยนอนที่ลานจอดรถภายในซอยประชาสงเคราะห์ 41 กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีคนนำร่างของชายคนดังกล่าวมายังบริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่เช้าและนอนอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวัน
นายเก้าหน้า กล่าวอีกว่า ขณะที่กำลังหาทางช่วยเหลือนั้น หน่วยกู้ชีพเอราวัณได้เข้ามาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ทำการประสานโรงพยาบาลปลายทางแต่ไม่สามารถรับรักษาผู้ป่วยได้ ตนจึงอาสานำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหนังสือส่งตัวจาก สน.ห้วยขวาง ประกอบเป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่เอราวัณได้นำชุด ppe ถุงเท้าคลุม สวมแมสก์ 2 ชั้นและเฟซชิลด์ เอี๊ยมสีฟ้าคลุมอีกชั้นหนึ่งให้กับตนและจัดการปิดกั้นบริเวณช่องระหว่างผู้โดยสารและคนขับ เพื่อนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลตำรวจ ขณะนั้นผู้ป่วยยังคงมีชีพจรและลืมตาได้
นายเก้าหน้า กล่าวด้วยว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่ตนก็ใช้ความระมัดระวังสูงสุด หลังจากการนำส่งตัวผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว ตนได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในรถอย่างดี ส่วนสาเหตุที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ เพราะตนเองไม่อยากเห็นสภาพคนตายอยู่ริมถนนอย่างเมื่อวันก่อนอีกแล้ว เมื่อประสบเหตุจึงพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุบางราย ยังรู้สึกสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุใดรถฉุกเฉินหน่วยกู้ชีพเอราวัณ ถึงไม่นำชายคนดังกล่าวส่ง รพ.แต่กลับให้รถแท็กซี่ไปส่งแทน บางรายสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นไปได้ว่า ในรถฉุกเฉินอาจมีผู้ป่วยโควิดอยู่ จึงเกรงว่าหากชายคนดังกล่าวยังไม่ติดเชื้อ แล้วนำขึ้นรถไปด้วยก็อาจจะติดเชื้อไปด้วยได้ ซึ่งต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงอีกครั้ง.