เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 สรุปว่าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้เห็นชอบให้ลดวันกักตัวในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5+5 คือกักตัว 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน จากเดิมให้กักตัว 7 วัน และสังเกตอาการ 3 วัน สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ต้องแจ้งให้ที่ประชุม ปก.ศบค. รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป คาดเริ่มใช้มาตรการลดวันกักตัวหลังสงกรานต์นี้

นอกจากนี้ นายอนุทิน สรุปภาพรวม ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัดแต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการมากในกลุ่มสีเหลืองและสีแดงต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. อัตราครองเตียงประมาณ 30% ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมยาต้านไวรัสที่จะใช้รักษาผู้ป่วยโควิด ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด รวมถึงจัดหาเวชภัณฑ์ซึ่งเป็นสารภูมิคุ้มกันชนิดออกฤทธิ์ยาว หรือ Long acting antibodies สำหรับฉีดในผู้ที่มีความเสี่ยงและมีภูมิคุ้มกันต่ำเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อจนมีอาการหนัก

ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด ภาพรวมไปแล้วกว่า 130 ล้านโด๊ส ครอบคลุมเข็มแรกกว่า 80%, เข็มที่สอง 73% และเข็มที่สาม 35% แต่ยังมีผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางไม่สะดวกทำให้ยังไม่ได้รับวัคซีน ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจึงมีการรณรงค์ “Save 608 by booster dose” เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับ อสม.ออกสำรวจ และให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกถึงบ้านโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเสียชีวิต.