สมาคมวอลเลย์บอลไทย คอนเฟิร์ม “ทัดดาว” ต้องพัก 6-8 สัปดาห์ ทำให้จะชวดลงเล่นตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เหลือไปจนถึงต้นเดือนก.ค. นี้อย่างแน่นอน โดยแถลงการณ์ดังนี้

จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุของทัดดาว นึกแจ้ง นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ขณะทำการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก (VNL) ระหว่างทีมชาติไทย กับ เบลเยียม เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ ประเทศตุรกี นั้น ฝ่ายแพทย์และวิทยาศาสตร์การกีฬา สมาคมกีฬาวอลเลย์แห่งประเทศไทย ได้สรุปอาการบาดเจ็บของทัดดาว ให้ทราบดังนี้ เบื้องต้นทัดดาว มีอาการบาดเจ็บหลังบริเวณเอวส่วนล่างด้านซ้าย ไม่สามารถลุกยืนได้ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจร่างกายไม่พบการบาดเจ็บหรือมีอาการผิดปกติของเส้นประสาท จากภาพถ่ายด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) พบบริเวณเอวส่วนล่างมีการหักของกระดูกรยางค์ข้างซ้ายของกระดูกสันหลังส่วนเอวข้อที่ ๒ และ ๓ ซึ่งเป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อสันใน(psoas muscle) ที่ใช้ในการงอสะโพก (hip flexion) สันนิษฐานว่าเกิดจากการเกร็งอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อสันในในขณะที่ล้ม และกล้ามเนื้อกระตุกเป็นเหตุทำให้กระดูกหัก

การรักษาของทัดดาว ที่ตุรกี แพทย์ได้ให้การรักษาแบบประคับประคอง ทางทีมแพทย์ของสมาคมฯ ได้ปรึกษากันแล้วลงความเห็นเบื้องต้นว่า สามารถรักษาได้ด้วยวิธีไม่ต้องผ่าตัด จะใช้เวลารักษาประมาณ ๖ ถึง ๘ สัปดาห์ และแนะนำให้กลับมาตรวจละเอียดที่ประเทศไทยโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำหนดแนวทางรักษาให้หายโดยเร็วที่สุด ซึ่งสมาคมฯ ได้ประสานงานกับผู้ฝึกสอนแล้วกำหนดให้ทัดดาว กลับมาตรวจรักษาที่ประเทศไทยโดยจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเช้าวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ และเข้าพักตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลปิยะเวท ซึ่งเป็นโรงพยาบาลคู่ความร่วมมือกับสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย โดยทีมแพทย์ของสมาคมฯ จะประสานกับทีมแพทย์โรงพยาบาลปิยะเวท เพื่อดูแลรักษาให้ทัดดาว หายเร็วที่สุดเพื่อกลับมาช่วยทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยในการแข่งขันชิงแชมป์โลกปลายปีนี้

สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน และขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ในวงการกีฬาหลายท่านที่แสดงความเป็นห่วงและให้กำลังใจ รวมทั้งแสดงความประสงค์ยินดีที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้วย ขอขอบคุณแฟนวอลเลย์บอลจำนวนมากที่สอบถามอาการด้วยความเป็นห่วงและให้กำลังใจ รวมทั้งอวยพรให้หายเร็ว ๆ สมาคมฯ ขอยืนยันว่าทีมแพทย์ของสมาคมฯ ซึ่งเป็นกลุ่มแพทย์อาสาและแพทย์ของศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย จะประสานร่วมมือกับคณะแพทย์ของโรงพยาบาลปิยะเวท ทำการตรวจรักษาให้ดีที่สุด.