จากกรณีตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นำโดย บก.ปคม. บก.ปปป. บก.ปอท. สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการ “คอสเพลย์อวตาร” บุกจับกุมนายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาในคดีสร้างบัญชีแอคเคานท์สื่อออนไลน์ปลอม หรือ อวตาร ล่อลวง ด.ญ. อายุ 14 ปี บุตรสาวของ ด.ต. ถ่ายภาพโป๊ ก่อนแอบบันทึกเก็บไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ให้ยอมทำตามข้อเรียกร้อง จนเกิดเป็นความเครียดสะสมตัดสินใจผูกคอตายเพื่อหนีปัญหา ตามที่เคยมีการนำเสนอไปก่อนหน้าแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีเอาผิดนายปิยบุตร ผู้ต้องหารายนี้นั้น เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จากความผิดซึ่งหน้า หลังการตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่องโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ส่วนตัวพบคลิปวิดีโอและรูปภาพในลักษณะลามกอนาจารเด็กเป็นจำนวนมาก กว่า 100 รายการ ซึ่งจากการสอบปากคำ นายปิยบุตร ให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำการดังกล่าวจริง และยอมรับว่าตนเอง เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตายของเหยื่อ
โดยในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งดำเนินการส่งตัวฝากขังยังศาลอาญา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมกับเตรียมยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว
เปิดใจ ‘ด.ต.’ พ่อเหยื่อคอสเพลย์อวตารผูกคอ ร่ำไห้เสียใจช่วยลูกสาวไม่ได้…
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า แนวทางคดีหลังจากนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบ และชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบจำนวนเหยื่อ หรือผู้เสียหาย ที่แน่ชัด เบื้องต้นขณะนี้พบมีผู้ตกเป็นเหยื่อนายปิยบุตร จำนวนมากกว่า 20 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย ในกลุ่มผู้ชื่นชอบแต่งคอสเพลย์ และคาดว่าน่าจะมีมากกว่านี้ พร้อมทั้งกำชับให้ดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ รวมถึงพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ ในการเอาผิดเพิ่มเติมแบบครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะข้อกฎหมายเกี่ยวกับกรณีที่เป็นต้นเหตุทำให้เหยื่อฆ่าตัวตาย เพื่อให้มีอัตราโทษเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมโดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งจะมีการประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมเข้าสอบปากคำผู้เสียหาย
จากการตรวจสอบภาพ หรือคลิปวิดีโอหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ส่วนตัวของนายปิยบุตร พบคลิปวิดีโอจำนวนหลายคลิป เผยให้เห็นถึงความอัดอั้น กดดัน เครียด หรือเศร้าเสียใจ เหมือนคนไร้ทางออกของเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อ จากการถูกข่มขู่บังคับให้ยอมทำตามความต้องการของนายปิยบุตร ที่มากกว่าแค่การกระทำในลักษณะลามกอนาจาร คล้ายกับทาสทางอารมณ์ โดยเหยื่อบางรายถูกบังคับให้เปลื้องผ้า ทำท่าทางคล้ายสุนัข แล้วก้มลงกินอาหาร และอีกหลายพฤติกรรมในเชิงซาดิสต์ ทั้งที่ตัวเหยื่อเองไม่ได้เต็มใจ บางรายถูกกระทำลักษณะดังกล่าวซ้ำๆ หลายครั้งทุกวัน จนทนแบกรับความกดดันไม่ไหว ร้องไห้ฟูมฟาย ถือมีดจี้คอตัวเอง เหมือนคนไม่มีสติ เพื่อร้องขอให้นายปิยบุตร หยุดการกระทำ แต่ก็ไม่เป็นผล.
