นายฮา อิน-ซิก ชายวัย 50 ปี ใช้ชามพลาสติกวิดน้ำออกจากอพาร์ตเมนต์ชั้นล่างของเขา ตั้งอยู่ในย่านซิลลิม เขตที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโซล ซึ่งถูกน้ำท่วมจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก จนครอบครัวของเขาต้องนอนหลับที่สวนสาธารณะใกล้เคียงแทน

ตอนนี้ นายฮา ภรรยา และบุตรสาวของเขา เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน, เฟอร์นิเจอร์, หนังสือ หรือแม้แต่เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ออกมากองนอกบ้าน เพื่อสำรวจว่า พวกเขากอบกู้อะไรได้บ้าง

ภาพที่เห็นมีความคล้ายคลึงอย่างน่าอัดอัดใจกับแฟลตกึ่งชั้นใต้ดินที่มีน้ำเสียท่วมขัง ซึ่งปรากฏในภาพยนตร์เกาหลีใต้ “พาราไซต์” หรือ “ชนชั้นปรสิต” ที่ได้รับรางวัลออสการ์เมื่อปี 2563 โดยตัวภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปเอเชีย

แม้อุทกภัยจะสร้างความลำบากและความสูญเสียทางการเงินในส่วนที่มั่งคั่งของกรุงโซล ดังเช่นย่านกังนัมที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์ แต่ในสถานที่อย่างย่านซิลลิม ความหวังเล็ก ๆ ที่คนสิ้นหวังอย่างนายฮา ยึดมั่นเพื่อที่จะสู้ชีวิตต่อไป กลับจมอยู่ใต้บาดาลอย่างหมดสิ้น

“ผมไม่มีเงิน ไม่มีอะไรเลย แต่ผมมาที่นี่เพื่ออยู่อาศัยในห้องใต้ดินนี้ เพราะมันเป็นทางเลือกเดียวที่ผมจะต้องอยู่กับลูกสาว” นายฮา กล่าว “แต่ตอนนี้ผมสิ้นหวังแล้ว ทุกอย่างหายไปหมดเลย ไม่มีความช่วยเหลือ และผมไม่มีแม้แต่ช้อนที่จะใช้กินข้าวด้วย”

อย่างไรก็ตาม นายฮาไม่ได้ประสบความทุกข์ยากเพียงคนเดียว เพราะผู้อยู่อาศัยคนอื่นย่านซิลลิมต่างวิดน้ำด้วยชามขนาดใหญ่ หรือควานหาสิ่งของที่ยังใช้งานได้ ในกองเศษซากความเสียหายจากภัยธรรมชาติครั้งนี้เข่นกัน

สมาชิกในครอบครัวเดียวกัน 3 คน ในละแวกใกล้เคียง ซึ่งมีผู้หญิงที่บกพร่องทางพัฒนาการรวมอยู่ด้วย จมน้ำเสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ชั้นล่างของพวกเขา และมีรายงานผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 10 ราย หลังเกิดฝนตกอย่างหนักทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ไฟฟ้าดับ เกิดดินถล่ม รวมถึงน้ำท่วมถนนและทางรถไฟใต้ดิน

ด้านนายชเว แท-ยอง หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงและภัยพิบัติแห่งกรุงโซล กล่าวโทษเหตุการณ์น้ำท่วมว่าเกิดจากการปิดกั้นประตูบ้านของครอบครัว แต่ชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นทางรัฐบาลที่ล้มเหลวในการประกาศเตือนผู้อยู่อาศัยถึงน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้น

ขณะที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ซึ่งลงพื้นที่ประสบภัยในย่านซิลลิม กล่าวขอโทษต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้มีมาตรการปรับปรุงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย เพื่อปกป้องคนชรา คนจน หรือคนพิการ และครอบครัวเช่นนายฮา ซึ่งบ้านของพวกเขามีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมมากที่สุด

“ฝนตกหนักครั้งนี้เลวร้ายที่สุดในรอบ 115 ปี” นายยุน กล่าวในระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน “ผู้ยากไร้และกลุ่มเปราะบางมีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติมากกว่า และประเทศของพวกเราจะปลอดภัย เมื่อพวกเขารู้สึกปลอดภัย”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS