เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัด กทม. สำนักพัฒนาสังคมและสำนักงานการต่างประเทศ กทม. ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ของเด็กในกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน รวมทั้งแนวทางการทำงานและความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการความร่วมมือในอนาคต ร่วมกับ นางคยองซัน คิม ผอ.ใหญ่องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประเทศไทย และคณะ ผ่านระบบออนไลน์

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นเมืองใหญ่ที่มีชุมชนแออัดจำนวนมาก รวมทั้งลักษณะของครอบครัว บางส่วนเป็นครอบครัวเดี่ยวทำให้เด็กขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็ก ในส่วนของการศึกษาสำหรับเด็กทุกระดับชั้น กทม.ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งเด็กปกติ เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนและเด็กไร้สัญชาติ ทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษาจาก กทม. อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้ง กทม.ยังได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดอาหารเช้าและอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม.ทุกคน เนื่องจากเห็นว่าหากเด็กมีการกิน อยู่ที่ดี จะมีโอกาสในการได้รับชีวิตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม โครงการต่างๆ ที่ กทม.ได้ดำเนินการอาจยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือและข้อคิดเห็น จากยูนิเซฟ เพื่อให้เด็กทุกคนได้มีการพัฒนาได้ครอบคลุมทุกด้าน รวมทั้งหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง จะได้เชิญคณะเจ้าหน้าที่จากยูนิเซฟร่วมลงพื้นที่ติดตามการทำงานของสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานครเพื่อร่วมให้ข้อเสนอแนะอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงการของกรุงเทพมหานครต่อไปในอนาคต

สำหรับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีภารกิจที่สำคัญ คือ การส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กเพื่อให้เด็กทุกคนมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ได้รับการคุ้มครองจากอันตราย ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและพร้อมที่จะพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ

สำหรับองค์การยูนิเซฟในประเทศไทยได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ซึ่งมีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับล่าสุดของประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งยังสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่อขจัดความยากจน ส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การเข้าถึงพลังงานสะอาด และการลดความเหลื่อมล้ำ.