เมื่อวันที่ 24 ต.ค.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนถอดคำพูดจากภาพและเสียงระหว่างนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิดีโอคอลกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่ามีเหตุที่ต้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคลิป ดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 ระบุว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” หรือไม่ โดยประกอบกับการพิจารณาเพิ่มเติมจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา45 คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563 ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย คำวินิจฉัยและหนังสือ กกต. ต่างๆและมาตรฐานทางจริยธรรม

นายเรืองไกร กล่าวว่า ข้อความในคลิปที่นายเกรียง ถามนายทักษิณ เช่น เรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่ “นายเกรียง บอกว่าสิ้นเดือนจะไปพบเจ้านาย ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรีบอกว่า ผมมีหลายแนวทางอยู่ รับรองว่าแต่ละแนวทางส.ส.ที่คิดจะออก เพราะรับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน และที่บอกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราที่ยังอยู่กว่า 136 คน แข็งแรงทุกคน แล้วสามารถขยายเส้น ขยายเขต ในจังหวัดใกล้เคียงกันได้อีก” ล้วนแต่เป็นการสนทนาที่มีนัยทางการเมือง ซึ่งนายเกรียง ยอมรับข้อเท็จจริงต่อสื่อไปแล้ว จึงอาจจะมีลักษณะในทางที่เข้าข่ายเป็นการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง

นายเรืองไกร กล่าวว่า ต่อมายังนำลายมือชื่อที่สื่อระบุว่าเป็นของนายทักษิณ ที่เขียนคำว่า “พรรคเพื่อไทย” หรือคำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” มาใช้ในเฟซบุ๊กของพรรคและเฟซบุ๊กของสมาชิกพรรค ซึ่งข้อความน่าจะเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมของพรรคการเมือง รวมทั้งน่าจะยังมีการนำลายมือดังกล่าวไปใช้ในการประชุมพรรคเพื่อไทย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ โดยกรณีดังกล่าวถ้าเทียบเคียงกับคำวินิจฉัย กกต. ที่ 20/2564 กรณีหัวหน้าสาขาและสมาชิกพรรคเพื่ออนาคตไทย ฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา30 ซึ่ง กกต.มีคำสั่งให้ดำเนินคดีไปแล้ว จึงควรตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานในแนวทางที่ กกต.เคยปฏิบัติ ดังนั้นตนจะยื่นหนังสือถึงกกต. ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เพื่อตรวจสอบว่าเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.28 หรือไม่ และมีเหตุจะร้องศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคหรือไม่.