จากกรณีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน บ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่  ยื่นหนังสือถึง นายสมโภชน์ ทองชู นายอำเภอเกาะลันตา เพื่อให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิในที่ดินหรือโฉนดที่ดิน บนพื้นที่เกาะนุ้ยนอก หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา กว่า 5 ไร่ ที่มีประกาศขายไร่ละ 20 ล้านบาท ทั้งที่เกาะดังกล่าวไม่เคยมีหลักฐานของการอยู่อาศัยและไม่เคยมีครอบครองของบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น  

เอ๊ะยังไง! นายทุนโผล่ฮุบเกาะนุ้ยนอก จ.กระบี่ หลังรัฐบาลมีนโยบายเดินหน้าออกโฉนดที่ดิน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายสมโภชน์ ทองชู นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่มายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มีออกโฉนดในพื้นที่เกาะนุ้ยนอก ครอบคลุมทั้งเกาะเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ร่วมกับชาวประมงใช้เป็นที่พักหลบคลื่นลมมรสุมและเป็นแหล่งสัตว์น้ำ โดยทางอำเภอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามสืบหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาแล้ว อีกทั้งขณะนี้ได้ยื่นเรื่องขอเอกสารการออกโฉนด ฉบับดังกล่าวจากสำนักงานที่ดินอำเภอเกาะลันตา ซึ่งได้ข้อมูลว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวออกโดยศูนย์ดำเนินการสำรวจออกโฉนดในปีงบประมาณ 2564 ขณะนี้อยู่ระหว่างรวมรวมเอกสารหลักฐานที่เป็นสารบบทั้งหมด ทั้งการออกโฉนดและตรวจสอบรายละเอียดการออกโฉนด เพื่อรายงานไปยัง ผวจ.กระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งหากการดำเนินการออกโฉนดดังกล่าวไม่ถูกต้อง ก็เป็นที่ของทางศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดและกรมที่ดิน จะดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิต่อไป

ขณะที่ นายถลอม ลูกหยี อายุ 43 ปี ชาวบ้านชุมชนบ้านเจ๊ะหลี ต.เกาะลันตาใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านรู้กันเกือบทั้งหมู่บ้านแล้วว่าเกาะนุ้ยนอกมีออกโฉนดเป็นของส่วนบุคคลไปแล้ว จึงไม่มีใครกล้าขึ้นไปเยียบบนเกาะ จึงอยากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเอากลับคืนมาเป็นของส่วนรวม เพื่อชาวบ้านจะได้กลับมาใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง