เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง เปิดเผยว่าการที่เสียงส่วนใหญ่ใน กมธ. มีมติใช้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์หารด้วย 100 นั้น ต้องยอมรับว่ามติเสียงข้างมากเลือกสูตรนี้ แต่ดำเนินตามระเบียบ คือ สงวนคำแปรญัตติ

ส่วนแนวทางหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อนั้น นพ.ระวี กล่าวว่าตนพูดได้คำเดียวว่าสงครามยังไม่จบ ยังไม่นับศพทหาร ยังต้องสู้กันด้วยเหตุและผลในวาระ 2 และ 3 กันอีกครั้ง ซึ่งเมื่อจบในวาระ 3 ไม่ว่าฝ่ายใดชนะก็ตาม ตามระเบียบรัฐสภาจะต้องยื่นไปให้องค์กรอิสระไม่ว่าจะศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือศาลฎีกา ดูทั้ง 2 ฉบับ และต้องจบที่ว่าองค์กรอิสระตีความกลับมาอย่างไร หากตีความกลับมาว่าต้องแก้ รัฐสภาอาจจะต้องแก้ไข แต่หากตีกลับมาว่าไม่มีอะไรที่ต้องแก้ไขก็ถือว่าจบ และสามารถนำขึ้นโปรดเกล้าฯ ได้

“สำหรับแนวทางการยุบหรือควบรวมพรรคนั้น สมมุติว่าหากหาร 500 เกิดพลิกชนะ พรรคเล็กทั้งในและนอกสภา ก็มีโอกาสควบรวมพรรคน้อย เพราะทุกพรรคก็อาจจะสู้ได้ แต่หากหาร 100 ชนะ พรรคเล็กอาจจะดำเนินการไป 2-3 รูปแบบ คือ 1.บางพรรคอาจจะถอยเลย 2.บางพรรคอาจจะมีการควบรวมกัน หรือไปรวมกับพรรคใหญ่ 3.บางพรรคอาจจะยืนหยัดสู้ต่อไป โดยแยกออกไปเป็น 2 รูปแบบ เช่น บางพรรคสู้ต่อไปเต็มรูปแบบ หรือบางพรรคอาจจะถอย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และไปลงเขตแทน เนื่องจากใช้คะแนนน้อยกว่า แต่สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ จะสู้ต่ออย่างเต็มรูปแบบแน่นอน” นพ.ระวี กล่าว.