จากกรณี ตำรวจ บก.ปทส. บุกเข้าจับกุมฟาร์มลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด โดยเฉพาะลูกเสือโคร่งตัวผู้ตัวเมีย อายุ 3 เดือนรวม 2 ตัว ภายหลังคุมตัวนายเคียง พฤฒิจิระวงศ์ อายุ 67 ปี เจ้าของฟาร์มไปสอบสวนให้การอ้างว่า ลูกเสือโคร่งดังกล่าวซื้อมาจากพรานในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในราคาตัวละ 150,000 บาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จับไม่หมด! บุกรวบผู้ต้องหาขายลูกเสือโคร่ง-นกเงือกกรามช้าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า จาการเกินลาดตระเวนออกตรวจ และดำเนินการสำรวจความหลากหลายของสัตว์ป่าในผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้มีการติดตั้งกล้องอินฟราเรด (camera trap)เอาไว้ 5 จุด ทั่วบริเวณป่า เพื่อดักถ่ายภาพสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ที่เดินผ่าน ตั้งเเต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นมาเพื่อจัดการเก็บข้อมูล จากการตรวจสอบภาพพบสัตว์ป่าทั้งสิ้น จำนวน 41 ชนิด เเบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (mammal) 24 ชนิด นก (bird) 16 ชนิด เเละสัตว์เลื้อยคลาน (reptile) 1 ชนิด ตามลำดับ

สัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ ช้างป่า กระทิง ชะมดเเผงหางปล้อง หมาใน เเมวลายหินอ่อน เสือลายเมฆ ไก่ฟ้าพญาลอ นกสาลิกาเขียว นกกางเขนดง นกเงือก เเละนกเเก๊ก เป็นต้น ซึ่งจากการเก็บข้อมูลครั้งนี้ พบสัตว์ป่าที่หายากเเละเป็นสัตว์ป่าสงวนที่สำคัญของไทย 1 ใน 19 ชนิด คือ เเมวลายหินอ่อน ถ่ายภาพได้จำนวน 2 ครั้งด้วยกัน ทั้งนี้ เเมวลายหินอ่อนเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (NT) (อ้างอิงตาม IUCN REDLIST)

ส่วนเสือโคร่งในพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ไม่ปรากฏพบเห็นมานานกว่า 10 ปี แล้ว โดยคาดว่าอาจจะย้ายถิ่นไปที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เนื่องจากมีพื้นที่ผืนป่าติดต่อเชื่อมโยงกัน โดยตนได้รานงานให้ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับทราบตามระเบียบไปแล้ว และขอยืนยันว่าไม่พบเสือโคร่ง ในพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่มานานคงเป็นไปไม่ได้ที่อ้างว่าได้ลูกเสือโคร่งจากอุทยานฯเขาใหญ่หัวหน้าอุทยานฯกล่าว.