เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด ได้ทำการจับกุม นายพัสวีร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย ด.ช.คิว (นามสมมุติ) วัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในหอพักแห่งหนึ่งในซอยจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และจะมีการส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชันในช่วงสายวันนี้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา พ่อแท้ๆ ของ ด.ช.เอ ได้ร้องขอนางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประสานตำรวจจับพ่อเลี้ยงโหดทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 4 ขวบเสียชีวิต สภาพถูกทำร้ายกระดูกซี่โครงหัก ลำไส้แตก ตามลำตัวมีรอยฟกซ้ำ จนลูกไปเข้าฝันผู้เป็นพ่อแท้ๆ เป็นลางบอกเหตุสืบเสาะจนรู้ความจริง “ปวีณา” ประสาน ผกก.สน.สามเสน และ ผกก.สน.บางพลัด คลี่ปมหาตัวคนร้ายใจโหดทำกับเด็กได้ลงคอมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายเบน (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี เล่าว่า น้องคิว (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 4 ขวบ ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงเพียง 2 คนลำพัง ส่วนแม่ออกไปทำงาน หลังจากที่แม่เด็กเลิกรากับตนไปช่วงเดือน ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ลูกต้องไปอยู่ในความดูแลของแม่ เพราะตนกับอดีตภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส แม้ตนอยากจะได้ลูกมาดูแลเองก็ตาม ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.เป็นต้นมา ตนฝันเห็นลูกชายมาเล่นด้วย และฝันติดต่อกันแทบทุกคืน ทีแรกก็ไม่เอะใจอะไร คิดว่าที่ฝันอาจเป็นเพราะคิดถึงลูกมากไปก็เป็นได้ จนคืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. ตนฝันแปลกกว่าทุกคืน เห็นลูกมาหาและเดินหันหลังให้ไม่ยอมคุยด้วย ก่อนจะสะดุ้งตื่นและใจคอไม่ดี จากนั้นตนพยายามติดต่อ น.ส.บี เพื่อจะไปเยี่ยมลูกแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จู่ๆ เพื่อน น.ส.บี ได้แชตมาหาตนและบอกว่า ลูกชายตนได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 พ.ค. และแม่รับศพไปทำพิธีตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายเบน เล่าอีกว่า ตนตกใจมากหลังตั้งสติได้ไปติดต่อ รพ.แห่งหนึ่ง ใกล้ย่านที่พักของเด็ก จนทราบว่า เด็กได้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 27 พ.ค. โดยมีญาติมารับศพไปแล้ววันที่ 28 พ.ค. ซึ่งจากการชันสูตรศพพบบาดแผล มีซี่โครงหัก ลำไส้แตก และตามตัวมีรอยฟกซ้ำ โดยทางโรงพยาบาลได้แนะนำให้ตนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สามเสน จากนั้นตนหาทางติดต่อ น.ส.บี จนได้ โดย น.ส.บี ยอมรับว่าลูกเสียชีวิตแล้ว แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งศพลูกก็ได้เผาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนจึงต้องการทราบสาเหตุการตายของลูก และเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาตัวผู้กระทำกับลูกตนมาลงโทษตามกฎหมาย จึงได้ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรม

โดยหลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.สามเสน ทำการสอบสวนรวบรวมหลังฐานจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ในที่สุด.