เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นางวราพร ทรัพย์เมฆ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 13 ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังนายธงชัย ทรัพย์เมฆ หรือ ลุงเต่า อายุ 57 ปี พิการขาขวาขาดต้องใส่ขาเทียมมากว่า 5 ปี ถูกคนร้ายปิดบังใบหน้า บุกขึ้นมาบนบ้านพักใช้มีดยาว 1 ศอก กระหน่ำฟันศีรษะ ปาก ใบหน้า และไหล่ บาดเจ็บสาหัส ต่อหน้าเหตุเกิดพื้นที่ สภ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นางชะออด ทรัพย์เมฆ อายุ 67 ปี พี่สาวนายธงชัย ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนบ้าน มีชายสวมผ้าปิดบังใบหน้ามิดชิดบุกเข้ามาถามหา ลุงเต่า ผู้บาดเจ็บถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ตอบ คนร้ายได้หันไปเห็นน้องชาย หรือลุงเต่า นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าประตูบ้าน ก่อนเดินตรงเข้าไปชักมีดออกมาฟัน บริเวณใบหน้า ศีรษะหลายครั้ง ร่างฟุบจมกองเลือดแล้ววิ่งลงจากบ้านหลบหนีไป ตนตกใจมากตะโกนร้องเรียกญาติช่วยกันนำตัวนายธงชัย หรือลุงเต่า ส่งโรงพยาบาลโพทะเล และส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลพิจิตรเนื่องจากอาการสาหัสเย็บกว่า 100 เข็ม ต้องใส่ท่อหายใจ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และได้เข้าแจ้งความ สภ.โพทะเล ไว้แล้ว

นางวราพร น้องสาวผู้บาดเจ็บ ระบุว่า การบุกมาทำร้ายพี่ชายครั้งนี้ ครอบครัวยังไม่ทราบสาเหตุเพราะไม่ทราบว่า พี่ชายไปทะเลาะกับใคร เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนอยู่แต่บ้าน หลังไปทำงานก่อสร้างแล้วประสบอุบัติเหตุขาขวาลีบมาตลอดกระทั่ง 5 ปี อาการหนักขึ้นจนต้องตัดขาขวากลายเป็นคนพิการ โดยเฉพาะช่วงโควิด กระทั่งหลังสถานการณ์โควิดเบาบางลงก็จะมีออกไปดูไก่ชนบ้างบางวัน และจากพฤติกรรมเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับพี่ชาย เนื่องจากก่อนลงมือก่อเหตุมีการถามหาโดยบอกชื่อ ลุงเต่า ชัดเจน และหลังเกิดเหตุถึงแม้จะแจ้งความกับตำรวจไว้แล้วแต่จากการสืบสวนของตำรวจพบว่ากล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางหลบหนีกลับเสียหายหมดทุกตัว และถึงตำรวจจะรับปากว่าจะพยายามติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ แต่ระหว่างนี้ทุกคนในบ้านยังหวาดกลัว เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาทำร้ายคนในบ้านอีก จึงตัดสินใจร้องสื่อช่วยเร่งรัดคดีให้ติดตามคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วเพราะเชื่อว่าต้องเป็นคนรู้จักกันแน่นอน