เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่สำนักงานเขตหนองแขม นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงเรื่องการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะว่า เมื่อวันศุกร์ เป็นครั้งแรกที่ได้มีประกาศพื้นที่ชุมนุม ต้องบอกว่าบรรยากาศดีนะทุกคนมาร่วมกัน ส่วนตัวมองว่า มีการกำหนดพื้นที่ มีการตรวจอาวุธ รู้สึกว่าปลอดภัย ถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราให้เกียรติประชาชนเพราะนี่คือพื้นที่ของประชาชนเอง ประชาชนก็ให้เกียรติเราด้วยคือดูแลพื้นที่ ดูแลกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม และตำรวจก็มีความละมุนละม่อมขึ้น เพราะมีความสบายใจขึ้น เพราะมีพื้นที่ที่สามารถควบคุมดูแลได้และไม่ไปเบียดบังพื้นที่อื่น

นายชัชชาติ ยืนยันว่า ไม่ใช่การจัดโซนนิ่งเป็นเพียงแค่ ทางออกว่าใครจะมาใช้ก็มาใช้ตรงนี้ แต่ถ้าหากจะไปใช้ข้างนอกก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายอื่นที่ต้องขออนุญาต ตนติดตามสถานการณ์ตลอด ลุ้นตลอดว่าจะมีเหตุการณ์อะไรไหม มีกล้อง CCTV จับและคอยมอนิเตอร์ตลอด ก็มองว่าเป็นมิติที่ดีและมองว่าในอนาคตพื้นที่แบบนี้ จะทำให้เกิด การถก แถลงกัน ไม่ต้องทะเลาะกันเห็นต่างได้ ก็มาแถลงกัน คนไหนจะเห็นอย่างไรสุดท้ายประชาธิปไตย ก็มีระบบเลือกตั้ง ก็มีระบบแก้เรื่องความขัดแย้ง น่าจะเป็นสิ่งที่ดีก็ขอบคุณทุกคน นอกจากการกำหนดพื้นที่แล้วเรายังกำหนดจำนวนคน และเมื่ออยู่ในกรอบจำนวนคน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพราะทุกคนก็อยู่ในกรอบที่ตัวเองทำ ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีและตอนนี้ก็พยายามคุยทุกกลุ่ม ว่ามีความคิดอย่างไร มีมุมมองอย่างไร ผมว่าคนไทยอยู่ด้วยกันอยู่ด้วยความสมานฉันท์ได้ มีความสามัคคีได้

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผมก็รับฟังทุกคำ ก่อนเปิดยังมีข้าราชการ กทม.ไม่เห็นด้วย ผมก็รับฟังหมด เพราะกลัวทรัพย์สินจะเสียหายกลัวจะควบคุมไม่ได้ แต่พื้นที่ของประชาชนเราสร้างขึ้นมา เราไม่ใช่เจ้าของ เราแค่ดูแล ถ้ากลัวอะไรก็ป้องกันตรงนั้น ถ้ากลัวจะไปทำความเสียหายชั้นใต้ดินก็ย้ายรถออกไปให้หมด อย่าให้เอารถมาจอด อย่าให้เกิดการยั่วยุ ต้องกั้นพื้นที่ให้ดีต้องอธิบายให้ฟัง

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถือว่าถูกทางไหม นายชัชชาติ ตอบว่า ณ วันนี้ถือถูกทาง แต่อนาคตก็ทดลองก่อน 1 เดือน ก็ขอให้ร่วมมือร่วมใจกันผมคิดว่า ระบบประชาธิปไตยต้องมีความคิดเห็นแตกต่าง สังคมที่เห็นเหมือนกันหมดน่ากลัว คือสังคมที่เห็นเหมือนกันหมดไม่ใช่เรื่องที่ดี สังคมที่เห็นแตกต่างจากเห็นความเปลี่ยนแปลงพัฒนาการได้ ก็ต้องหาสถานที่ให้สามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมืองยังมีอีกหลายเรื่อง เช่นเรื่องสังคม ก็มาคุยกันได้บนลานนี้

สำหรับกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีนายชัชชาติ ได้ลงนามในประกาศ กทม. เรื่อง จัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ 7 สถานที่ โดยระบุว่า “…กทม.ประกาศให้ 7 พื้นที่ม็อบ จัดชุมนุมได้ หากเกิดการชุมนุมนอกพื้นที่ทั้ง 7 แล้วไซร้ กทม.ไม่ดำเนินการเอาผิด ระวังจะโดน ปอ.157 นะครับ…” นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า “…เดี๋ยวคงต้องถามฝ่ายกฎหมายดูอีกที เพราะอย่างที่บอกไม่ใช่บังคับให้มาแต่เป็นทางเลือก ถ้าเขาไม่ทำตามทางเลือกก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณศรีสุวรรณ ช่วยชี้ประเด็นแต่ว่าจะให้ฝ่ายกฎหมายดูให้รอบคอบอีกครั้งหนึ่ง…”

ผู้สื่อข่าวถามต่อเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ขณะนี้ยังคงมีควบคุมอยู่ในมุมมองของผู้ว่าคิดเห็นอย่างไร ยังคงควรคงอยู่ต่อไปหรือเปล่านั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของรัฐบาลใหญ่ ซึ่ง กทม.ไม่เกี่ยว แต่ในกรอบที่เราทำในการประกาศพื้นที่ มันทำให้พ.ร.ก.ฉุกเฉินสามารถทำได้ดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะกทม.ประกาศพื้นที่ชัดเจน จำนวนคนทำให้การชุมนุมทำได้แม้จะยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นตัวช่วยให้ได้ปลดปล่อยความกดดัน ทั้งนี้ พ.ร.กฉุกเฉิน เป็นอำนาจของรัฐบาลใหญ่ ก็คงต้องแล้วแต่รัฐบาลเพราะรัฐบาลต้องดูหลายปัจจัยที่ประกอบกัน