เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มราษฎร และคณะ อาทิ พรรคโดมปฏิวัติ เครือข่ายรายงานเพื่อสิทธิประชาชน สหภาพคนทำงาน องค์การบริหารนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลุ่มทะลุฟ้า คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน กลุ่มทะลุวัง กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง “ให้มันจบที่ 8 ปี” เพื่อส่งสาร ถึงรัฐบาล รัฐสภา และศาลรัฐธรรมนูญ ต่อกรณีการครบกำหนดวาระ 8 ปีของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งจะต้องสิ้นสุดสถานะของการเป็นนายกรัฐมนตรีลง ตามกำหนดที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปี พ.ศ. 2560 โดย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เป็นแกนนำอ่านแถลงการณ์ โดยระบุว่า เป็นเวลากว่า 8 ปี ที่สังคมไทยต้องอยู่ภายใต้ช่วงเวลาอันมืดมนและขมขื่นที่สุดภายใต้การปกครองของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ร่วมมือกับพลพรรคชิงอำนาจไปจากประชาชน ตั้งตนและพวกเป็นขึ้นรัฐบาล ใช้อำนาจอำนวยผลประโยชน์และความมั่นคงแก่ชนชั้นนำส่วนน้อย กดขี่ข่มเหงประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ

อย่างไรก็ช่วงเวลาแห่งความเลวร้ายก็ต้องมีอันสิ้นสุด เนื่องด้วยรัฐธรรมนูญปี 60 มีการบัญญัติเรื่องภาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในมาตรา 158 วรรค 4 ว่า นายกฯ จะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่ไม่ให้นับรวมเวลาที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นตำแหน่ง รวมทั้งในรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 2 บัญญัติไว้ว่าความเป็นรัฐธรรมนูญตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดมาตรา 158 วรรค 4 นอกจากนี้ ตรา 264 บัญญัติว่าให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จึงต้องถือว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องสิ้นสุดลงในวันที่ 24 ส.ค.65 ซึ่งครบกำหนด 8 ปี จึงขอให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้น จะสะท้อนให้เห็นว่าการขนานนามรัฐธรรมนูญปี 60 ว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกงก็เป็นเพียงการหลอกลวงประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์จงลงจากตำแหน่งนายกฯ ตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญเสียแต่บัดนี้ และจงอย่าคิดสร้างสุญญากาศทางกฎหมาย ด้วยการประกาศยุบสภาในขณะที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรยังไม่ถูกประกาศใช้ อันจะเป็นการเปิดช่องให้สามารถสร้างกฎหมายเลือกตั้งที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องของตน และกลุ่มราษฎรขอส่งศาลถึงประธานศาลตุลาการรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลมีคำวินิจฉัยประเด็นการนับระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ส.ค.65 หรือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯ นับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.65 จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยแล้วเสร็จ

หากยังดำรงตำแหน่งต่อไปจะยังเป็นชนวนความโกรธแค้น และต่อต้านขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ขอประกาศว่าหลังวันที่ 24 ส.ค.65 ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงจากตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ หรือศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาเป็นประการใด แต่นับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.65 ประชาชนทั้งหลายจะถือว่าไม่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ อีกต่อไป หากยังอยู่ในตำแหน่งก็จะเป็นแต่เพียงนายกฯ เถื่อน เป็นนายกฯ นอกรัฐธรรมนูญเท่านั้น และคณะรัฐมนตรีที่ขึ้นต่อนายกฯ เถื่อนคนนี้ ย่อมมีสถานะเป็นคณะรัฐมนตรีนอกกฎหมายไม่ใช่คณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 60 อีกต่อไป

กลุ่มราษฎรขอประกาศว่าหลัง 24 ส.ค.65 ถือเป็นวาระในการเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการเลือกตั้ง ขอส่งสารถึงสมาชิกรัฐสภา ให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญปรับลดอำนาจของวุฒิสภา มาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงอันเป็นการปรับดุลยภาพแห่งอำนาจให้กลับคืนสู่ครรลองระบอบประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นดั้งเดิม และขอให้ประชาชนผู้รักในประชาธิปไตย มองเห็นการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในฐานะเป็นจุดเปลี่ยนของการต่อสู้ เป็นตัวชี้วัดความเปลี่ยนแปลงความคิดความเชื่อของสังคม และเป็นปฏิบัติการร่วมทางการเมืองอันเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ที่สุดที่ประชาชนผู้รับประชาธิปไตยทุกคนจะออกมาแสดงอำนาจในเชิงจำนวนพร้อมกัน เพื่อเป็นหลักชัยสำคัญเป็นประตูบานแรกสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และเป็นช่องทางในการปฏิรูปทุกองคาพยพของสังคมอย่างแท้จริง

“ดังนั้นราษฎรขอยืนยันข้อเรียกร้องเฉพาะการก่อนเลือกตั้งดังนี้ 1. ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ โดยทันที 2. หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ยอมลงจากอำนาจศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ส.ค.65 และ 3.ให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง”