เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว หมู่ 5 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร พระเกจิชื่อดังอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทย เมียนมา ลาว และจีน ได้เดินทางไปจำวัด เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา หลังจากไปรักษาอาการอาพาธที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น

เช้าวันนี้ครูบาบุญชุ่ม ได้ออกมาพบกับญาติโยมทั้งชาวไทย กลุ่มชาติพันธ์ บุคคลทั่วไป ที่ไปรอกราบไหว้ภายในบริเวณวัดอย่างคับคั่ง โดยครูบาบุญชุ่มได้แจกพระเครื่อง หนังสือธรรมะ ผ้าห่ม ฯลฯ ให้กับคณะศรัทธา ก่อนเข้าไปภายในศาลาหน้าองค์สมเด็จพระคันธาระองค์ปฐมซึ่งเป็นพุทธรูปองค์ใหญ่ภายในวัด เพื่อให้พรกับผู้คนทั้งหมด และครูบาบุญชุ่มได้นำคณะสงฆ์สวดมนต์และให้ลูกศิษย์ได้น้ำมนต์ออกไปประพรมให้กับผู้ที่เข้าไปร่วมพิธีภายในวัด โดยทุกคนต่างยกมือไหว้ด้วยความเคารพสักการะ และเปล่งเสียง “สาธุ” ๆด้วยความปีติยินดี ที่ได้เห็นครูบาบุญชุ่มมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถออกมาให้พรกับญาติโยมได้อีกครั้ง

ส่วนเรื่องที่ครูบาบุญชุ่มจะเดินทางไปจำพรรษาที่วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าจะออกเดินทางไปเมื่อใด

ด้านมูลนิธิดอยเวียงแก้ว ได้ออกประกาศเรื่องครูบาบุญชุ่ม เดินทางกลับเมียนมา และกรรมการมูลนิธิฯ เตรียมพ้นวาระการปฎิบัติงานมีเนื้อหาว่า ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ ได้เดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเมื่อเช้าวันนี้จะผ่านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปยังสาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมาต่อไป ขณะเดียวกันคณะกรรมการมูลนิธิดอยเวียงแก้วจะพ้นวาระการปฏิบัติงานในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 นี้อยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบหน้าที่ และสรุปบทเรียนสำคัญให้คณะกรรมการชุดใหม่ดำเนินการต่อไปดังนี้

 1.การจัดคณะผู้ดูแลรักษาสุขภาพโดยแพทย์แผนปัจจุบันและวิชาการสมัยใหม่

2.การจัดศาสนกิจที่เหมาะสมกับสุขภาพมุ่งเผยแผ่พระธรรมแก่มหาชนป้องกันไม่ให้มีการสื่อสิ่งอื่นใดที่ทําให้เกิดความงมงาย

3.เปิดเผยข่าวสารแก่ประชาชนเกี่ยวกับศาสนกิจไม่ปกปิดเป็นความลับเฉพาะสําหรับบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

4.เนื่องจากครูบาบุญชุ่มเป็นที่เคารพศรัทธาของพหุชนทุกชั้น ไม่จำกัดพรมแดนระหว่างประเทศ ทั้งได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินงานใดๆ พึงรักษากฎ ระเบียบ จารีต และธรรมเนียมปฏิบัติให้งดงามถูกต้องและเหมาะควรทุกประการ

5.มูลนิธิดอยเวียงแก้วพึงมียุทธศาสตร์การบริหารจัดการระยะยาวมี “อปริหานิยธรรม” บริหารอย่างมืออาชีพมุ่งงานศึกษาและเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างเต็มสติกำลัง ถือเป็นกิจหลักสำคัญที่ยั่งยืนมูลนิธิดอยเวียงแก้ว ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2565