เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการเชิญ ส.ท.หญิง ปัทมา (สงวนนามสกุล) พร้อมทนายความ และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เข้าให้ข้อมูลต่อ กมธ.ป.ป.ช. ในวันนี้ (8 ก.ย.) ว่าจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ติตต่อเชิญ ส.ท.หญิง ปัทมา และนายกัณฐัศว์ มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมาธิการฯ ในเบื้องต้นนั้น ล่าสุดทั้ง 2 คนได้ขอเลื่อนการมาให้ถ้อยคำไปก่อน ซึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะ ส.ท.หญิงคนดังกล่าว และทนายความเกรงกลัวต่ออิทธิพล แต่ก็ไม่เป็นไร โดยวันนี้เราจะเว้นไว้ก่อน เพราะยังสามารถหาข้อเท็จจริงจากบุคคลอื่นได้ แต่เราจะต้องทำเรื่องเชิญอีกครั้ง ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ จะมีมติเชิญ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ในฐานะมาเป็นตำรวจโดยวิธีพิเศษ และไปอยู่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ด้วยวิธีพิเศษ รวมถึงมีการรับเงินเดือนและค่าตอบแทนต่างๆ ทั้งที่ไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่

รวมทั้งจะเชิญผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล และผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งทั้งหมดจะต้องมาให้ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความจริงปรากฏ ส่วนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่เป็นผู้อนุมัติให้คนเหล่านี้เข้ามารับราชการนั้น เรายังไม่เชิญมาให้ข้อมูลในตอนนี้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นคณะกรรมาธิการฯ จะเชิญฝ่ายทหารมาให้ข้อมูล เพื่อพิสูจน์ว่า ส.ท.หญิง ปํทมาเข้ารับราชการทหารได้อย่างไร ทำไมจึงมีการหักเงินเดือนและโอนเงินเดือนไปให้ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ได้ อีกทั้งเราจะเชิญสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาให้ข้อมูลในภายหลังด้วย ขอให้ได้รับหลักฐานชัดเจนในตรงนี้ก่อน

เมื่อถามว่าจะมีการประสานข้อมูลกับกมธ.คณะอื่นๆ อาทิ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าไม่ต้องประสานข้อมูลกัน เพราะ กมธ.ชุดอื่นไม่รู้จักหน้าที่ของเขา และเขาไม่มีหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องนี้ เช่น กมธ.กฎหมายฯ มีหน้าที่พิจารณาแนวนโยบายด้านกฎหมาย ไม่ใช่มาดำเนินการเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ส่วน กมธ.การทหารมีหน้าที่ดำเนินการในเรื่องกิจการทหารและความมั่นคงของชาติ