ย้อนอดีตกลับไปราว 34 ปี ระหว่างวันที่ 3-5 ก.พ. 2531 นับเป็นภาพอันงดงามแห่งประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองราชอาณาจักรไทย-อังกฤษ เมื่อ “สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3” หรือ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์” ดำรงพระอิสริยยศในสมัยนั้น พร้อมด้วยเจ้าหญิงไดอานา เสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยทางการไทย ได้จัดขบวนรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินพระที่นั่งพิเศษออสเตรเลีย รอยัล แอร์ฟอร์ซ โบอิ้ง 707 ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย ปูพรมแดงยาว โดยมีพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงนำตรวจกองเกียรติยศ 75 นาย และวงดนตรี กองทัพบก บรรเลงเพลงชาติอังกฤษ และเพลงสรรเสริญพระบารมี รอต้อนรับอย่างอบอุ่น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ก.พ. 2531 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในวัย 36 ปี และเจ้าหญิงไดอานา ในวัย 27 ปี เสด็จออกจากโรงแรมโอเรียนเต็ลไปยังพระบรมมหาราชวัง ตามหมายกำหนดการได้ทอดพระเนตรสถานที่ต่างๆ แห่งละ 10 นาที จนกระทั่งเสด็จมาถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เจ้าชายทรงยืนเคียงคู่กับเจ้าหญิงให้สื่อมวลชนถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง ช่วงค่ำเสด็จไปทรงเปิดงานนิทรรศการอีสานเขียว เจ้าชายแห่งเวลส์กล่าวเปิดงานท่ามกลางความชื่นชมของผู้เข้าเฝ้าฯ ดังมีข้อความตอนหนึ่งว่า “… พระเจ้าแผ่นดินของไทย ทรงห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน พระองค์ทรงรู้สึกดีใจที่บริษัทของคนอังกฤษยังมีส่วนร่วมโครงการอีสานเขียว…” จากนั้นเจ้าชายแห่งเวลส์ทรงตรัสว่า ภูมิใจมากที่ได้มาเปิดนิทรรศการอีสานเขียว โดยคำว่าอีสานเขียวนั้น เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงตรัสออกสำเนียงทับศัพท์ว่า “อีสานเขียว” ชัดเจน

ต่อมาเวลา 20.10 น. เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์เสด็จออกจากโรงแรมโอเรียนเต็ล ไปยังพระที่นั่งบรมพิมาน ในการถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดเกล้าฯ ให้ช่างทำขนมไทยสาธิตการทำขนมไทยโบราณถวาย อาทิ ขนมเบื้อง สาคูไส้หมู แล้วเสด็จห้องอาหารชั้น 2 วงเครื่องสายมโหรีขับกล่อม เครื่องเสวยเป็นแบบไทยกับฝรั่งปนกัน จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำเสด็จลงประทับศาลารมย์ ทอดพระเนตรการแสดงจากกรมศิลปากรชุดรำโคมถวายพระพร โขนรามเกียรติ์

โดยในเช้าวันศุกร์ 5 ก.พ.2531 ก่อนเสด็จออกจากโรงแรมโอเรียนเต็ลนั้น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในฉลองพระองค์เสื้อซาฟารีขาว กางเกงสีเทาอ่อน เสด็จลงเรือพระที่นั่งไวยภพของทัพเรือ พร้อมผู้ติดตามทั้งชาวไทยและชาวอังกฤษกว่า 20 คน มายังกรมอู่ทหารเรือ เพื่อทรงประทับวาดรูปที่ริมท่าน้ำ โดยภาพวาดนั้นเป็นภาพสีน้ำมันรูปพระบรมมหาราชวัง ขนาด 12 นิ้ว การเสด็จครั้งนี้เป็นการเสด็จกะทันหันโดยไม่มีในหมายกำหนดการมาก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังท่านหนึ่งซึ่งติดตามเข้าขบวนเรือพระที่นั่งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในครั้งนี้เล่าว่า ท่านทรงพระเกษมสำราญต่อการประทับวาดรูปที่กรมอู่นี้มาก

เวลา 11.30 น. เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในฉลองพระองค์สูทสีน้ำตาลอ่อน เสด็จลงสู่ห้องแอมบาสซี่ เพื่อทรงพบปะและสนทนากับเหล่าคณะกรรมการคัดเลือกนักเรียนกองทุนยูไนเต็ด เวิลด์ คอลเลจ และศิษย์เก่าโรงเรียนยูไนเต็ด เวิลด์ คอลเลจ ประมาณ 10 คน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นชาวไทยทั้งสิ้น 9 คน และชาวญี่ปุ่น 1 คน สำหรับโรงเรียนยูไนเต็ด เวิลด์ คอลเลจ นั้นเป็นโรงเรียนที่เกิดขึ้นจากการก่อตั้งของลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบตตัน เสด็จปู่ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และขณะนี้ท่านก็ทรงรับสืบทอดการเป็นประธานของกองทุนโรงเรียนนี้ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก และเป็นโรงเรียนที่รับนักเรียนทุกชาติจากทั่วโลกเช่นกัน โดยปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้มีใจรักในสันติภาพและมีความรักซึ่งกันและกัน

และในโอกาสนี้เองที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงเล่าเรื่องที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำเมื่อคืนวานที่ผ่านมาว่า ท่านทรงติดพระทัยเชอร์เบทน้ำอ้อย รับสั่งว่า “อร่อยมาก ชอบมาก เกิดมายังไม่เคยเสวยมาก่อน” และทรงโปรดผลไม้เมืองไทยทุกชนิด สุดท้ายทรงกล่าวถึงอากาศเมืองไทยว่าร้อนและเลือดของพระองค์และพระชายายังข้นอยู่ จึงปรับตัวไม่ทัน อีกทั้งทรงบ่นเรื่องต้องผูกเนกไทใส่เสื้อนอกในขณะที่ยังอากาศร้อนมากทรงแนะว่าน่าจะใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวก็พอ

จากนั้นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ได้เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงแรมโอเรียนเต็ล ตรงเข้าสู่ลานสนามบินกองบัญชาการกองทัพอากาศ ซึ่ง ณ ที่นั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรอที่หน้าตึกบัญชาการเพื่อส่งเสด็จ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกันแล้ว จึงเสด็จฯ นำเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์สู่เชิงบันไดสนามบิน ทรงถวายอำลาเป็นครั้งสุดท้าย

เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ได้เสด็จถึงเชียงใหม่เมื่อเวลา 14.25 น. โดยมี ดร.ไพรัตน์ เตชะรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ถวายการต้อนรับ พร้อมด้วยเจ้านายฝ่ายเหนือและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในพิธีถวายการต้อนรับครั้งนี้ทางจังหวัดได้จัดให้นักเรียนนาฏศิลป์ จำนวน 500 คน มาร่วมรำอวยพร หลังจากนั้นเจ้าหญิงไดอานาได้เสด็จไปทอดพระเนตรการทำร่มที่บ้านบ่อสร้าง อ.สันกำแพง ทางด้านเจ้าชายชาร์ลส์ได้เสด็จเยี่ยมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด โดยรถพระที่นั่งได้เสด็จ ถึงเวลา 15.30 น.

เมื่อเสด็จถึงคณะกรรมการศูนย์ได้ถวายการต้อนรับ จากนั้น ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ผอ.สนง.เลขานุการ กปร.ได้ถวายการบรรยายสรุปเกี่ยวกับกิจการของศูนย์ ประมาณ 7 นาที จึงได้ทูลเชิญเสด็จทอดพระเนตรจุดต่างๆ 4 จุด ได้แก่ การทำพืชสวนพืชไร่ การปศุสัตว์เลี้ยงวัว ทอดพระเนตรอ่างเก็บน้ำที่แสดงถึงการประมง และจุดสุดท้ายคือทอดพระเนตรการปลูกสวนป่าเพื่อรักษาต้นน้ำลำธาร ซึ่งทั้งหมดได้ใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง 45 นาที จึงได้เสด็จกลับเพื่อเข้าพักพระอิริยาบถที่โรงแรมเชียงใหม่ออคิด พร้อมเสวยพระกระยาหารค่ำแบบขันโตก ก่อนเสด็จกลับกรุงลอนดอน ในเวลา 21.25 น. ของคืนวันเดียวกัน.